10 เทคนิคทำวิดีโอให้ความรู้ เพิ่มยอดขายให้กับบริษัท

ปัจจุบันเมื่อต้องการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ วิธีแรกที่หลายคนมักเริ่มทำกัน แน่นอนว่าต้องเป็นการมองหาวิดีโอให้ความรู้ในเรื่องที่ต้องการศึกษา เพราะเป็นวิธีที่ช่วยเข้าใจในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ได้อย่างละเอียดและรวดเร็วมากที่สุดภายในระยะเวลาสั้น ๆ และบนช่องทางออนไลน์ก็มักจะมีวิดีโอที่น่าสนใจ ให้คุณได้พบเจอเสมอ เนื่องจากมีผู้ผลิตวิดีโอหรือคอนเทนต์ประเภทนี้อยู่มากมาย เพื่อใช้ตามจุดประสงค์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงบุคคลหรือธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม วิดีโอให้ความรู้นั้นจัดว่ามีผลอยู่ไม่น้อย สำหรับการใช้งานเชิงการตลาดหรือเพิ่มความน่าสนใจ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจโดยส่วนใหญ่มักจะมีการทำคอร์สให้ความรู้ฟรี เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเองมากยิ่งขึ้น

และในวันนี้เราจะแนะนำให้คุณได้รู้เกี่ยวกับ 10 เทคนิคสำคัญ ที่จะทำให้คุณทำวิดีโอออกมาได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับการสร้างความน่าสนใจและเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทของตนเอง โดยวิธีการต่าง ๆ เหล่านั้นจะเป็นลักษณะใด และช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอให้ความรู้ของคุณได้มากแค่ไหน มาติดตามไปพร้อมกันกับเราในส่วนต่อไปของบทความนี้ได้เลยครับ

📖 บทความนี้มีอะไรบ้าง แสดง

วิดีโอให้ความรู้คืออะไร?

วิดีโอให้ความรู้ คือ รูปแบบของวิดีโอที่จะมีการสาธิตกระบวนการต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ, ถ่ายทอดความรู้, อธิบายแนวคิด ไปจนถึงการแสดงวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบของวิดีโอที่ไม่มีข้อจำกัดในการสร้างขึ้น หมายความว่าหากคุณมีความเชี่ยวชาญ หรือมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดมากเป็นพิเศษ ก็จะสามารถทำวิดีโอให้ความรู้ออกมาได้ด้วยกันทั้งสิ้น

สำหรับการแบ่งแยกประเภทของวิดีโอให้ความรู้ในเบื้องต้นนั้น จะสามารถทำได้ในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

– Microvideo

Microvideo คือ วิดีโอแนะนำแบบสั้น ๆ ที่เน้นการสอนหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งไม่มีความซับซ้อนมากนัก จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการสอนสิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็วมากที่สุดครับ

– Tutorial video

สำหรับวิดีโอ Tutorial เป็นหนี่งในเครื่องมือช่วยสอนกระบวนการทำหรือใช้งานสิ่งต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแนะนำแบบเป็นขั้นตอน ส่งผลให้การทำวิดีโอให้ความรู้ประเภทนี้ค่อนข้างได้รับความนิยม สำหรับการใช้เพื่อสอนและแนะนำการใช้งานบางสิ่งในครั้งแรกอย่างละเอียด

– Training video

วิดีโอ Training เป็นประเภทของวิดีโอให้ความรู้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้พัฒนาทักษะในการทำงานของสาขาอาชีพต่าง ๆ ซึ่งส่วนประกอบของวิดีโอประเภทนี้มักจะมาจากภาพของผู้ที่ทำงานในสถานการณ์จริง และส่วนใหญ่มักจะได้รับความนิยมในการใช้อบรมพนักงานใหม่ก่อนการเริ่มทำงานนั่นเองครับ

– Explainer video

Explainer video เป็นวิดีโอที่ใช้อธิบายแนวคิดทางธุรกิจ หรือแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักจะเป็นวิดีโอสั้นที่ใช้เพื่ออธิบายแนวคิดที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้ภายในวิดีโอจึงมักจะประกอบไปด้วยรูปภาพ และข้อความที่ใช้อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับสิ่งนั้น ๆ อย่างชัดเจน

– Presentation

วิดีโอประเภทนี้น่าจะเป็นหนึ่งในรูปแบบที่ผู้คนคุ้นเคยกันมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของวิดีโอเนื้อหาการสอน ที่ช่วยให้ผู้ฟังสามารถทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และสามารถนำไปใช้ทบทวนหลังการนำเสนอได้ง่ายมากกว่า เมื่อเทียบกันกับวิดีโอให้ความรู้ประเภทอื่น ๆ เนื่องจากจะมีรายละเอียดต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก และครอบคลุมในทุกหัวข้อที่จำเป็น ทำให้วิดีโอประเภทนี้มีความยาวและใช้เวลาในการทำที่ค่อนข้างมากเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่จะต้องทำการนำเสนอหรือให้ความรู้ด้วยเช่นกันครับ

– Screencast

สุดท้ายเป็นลักษณะของวิดีโอที่ไม่ได้มีความเป็นทางการมากนัก เนื่องจากเป็นการทำวิดีโอขึ้นมาจากการบันทึกหน้าจอและมีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย ซึ่งจากความง่ายและสะดวกสบายในการสร้างขึ้น ทำให้วิดีโอให้ความรู้ประเภทนี้ค่อนข้างเหมาะกับการใช้เพื่อสอนงาน หรือแบ่งปันความรู้ในบางเรื่องตามความเชี่ยวชาญนั่นเองครับ

หลังจากได้รู้จักประเภทของวิดีโอให้ความรู้กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะได้รู้จักกับ 10 เทคนิคทำวิดีโอให้ความรู้ เพิ่มยอดขายให้กับบริษัท กันแล้วครับ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อใหญ่ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ซึ่งเทคนิคที่เราจะเอามาฝากนั้นจะมีอะไรบ้าง เรามาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยครับ

รู้จักขั้นตอนและการวางแผนทำวิดีโอให้ความรู้

01 กำหนดและเรียนรู้กลุ่มเป้าหมาย

ก่อนที่จะเริ่มสร้างวิดีโอ คุณจำเป็นต้องรู้จักกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุและสิ่งที่คนกลุ่มนั้นต้องการเสียก่อน เช่น หากคุณมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ต้องการขาย การทำวิดีโอให้ความรู้นั้นก็อาจเป็นในแนวทางของการให้คำแนะนำและพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด สิ่งที่ควรถูกใส่ไว้ในวิดีโอก็ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในการใช้งานโดยตรง

หรือหากคุณจะต้องทำวิดีโอฝึกอบรมพนักงานใหม่ สิ่งที่คุณจะต้องกำหนดในการสร้างวิดีโอ อาจจะเป็นคำถามหรือรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างถูกวิธีและการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ซึ่งหากคุณต้องการสร้างวิดีโอให้ออกมาตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด การกำหนดกลุ่มของผู้ที่จะต้องรับชมวิดีโอตัวนี้เป็นขั้นตอนแรก จะถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าถึงขั้นตอนต่อไป คุณควรแน่ใจเสียก่อนว่าสามารถตอบคำถามด้านล่างนี้ได้หรือไม่ เพราะจะทำให้แนวทางของคุณมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หัวข้อของคุณคืออะไร?
ใครคือกลุ่มผู้ชมของคุณ?
ทำไมผู้ชมของคุณถึงสนใจเนื้อหานี้?
วัตถุประสงค์การเรียนรู้จากวิดีโอของคุณคือะไร?
วิดีโอของคุณจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ชมได้อย่างไร?

02 เขียนสตอรี่บอร์ดและสคริปต์ของวิดีโอ

ทำวิดีโอให้ความรู้_Storyboard — Storyboard

เมื่อกำหนดหัวข้อได้แล้วส่วนต่อไปก็คือ การสร้างสตอรี่บอร์ดเพื่อร่างสิ่งที่จะต้องทำออกมา และวางแผนการทำงานให้เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด โดยสิ่งนี้จะช่วยให้คุณทำวิดีโอออกมาได้กระชับและน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้น คุณควรจะเริ่มจากการสร้างสตอรี่บอร์ดออกมาเป็นภาพที่แสดงส่วนต่าง ๆ รวมถึงช่วงเวลาที่คุณจะต้องพูดให้ความรู้ในแต่ละหัวข้อพร้อมเขียนคำบรรยาย เพื่อให้เข้าใจรายละเอียดได้ง่ายมากขึ้นในระหว่างการบันทึกวิดีโอ

หลังจากนั้นคุณจึงจะเขียนสคริปต์เพื่อเป็นการจดบันทึกเกี่ยวกับหัวข้อ สิ่งที่ควรพูดและสิ่งที่จะต้องทำในระหว่างการพูดในช่วงต่าง ๆ ของวิดีโอ โดยที่ทั้ง 2 ส่วนควรอ่านได้ง่าย เพราะจะทำให้คุณเข้าใจในระหว่างการบันทึกวิดีโอได้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ

03 บันทึกเสียงคำบรรยาย

เมื่อคุณมีสคริปต์อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นการบันทึกคำบรรยายของคุณในรูปแบบเสียง ด้วยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่คุณมีอยู่ ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณอาจเลือกใช้งานเครื่องมือ ที่สามารถทำการถอดเสียงออกมาเป็นตัวอักษร เพื่อให้สามารถนำไปในการทำ Subtitle บนวิดีโอหรือนำไปทำต่อเป็นเอกสารได้ด้วยเช่นกัน โดยในระหว่างการบันทึกเสียงนั้น คุณควรแน่ใจว่าสามารถพูดทุกสิ่งได้อย่างต่อเนื่องและชัดเจนมากที่สุด และควรทำการบันทึกแต่ละส่วนแยกออกจากกัน จะทำให้คุณสามารถแก้ไขการพูดที่ผิดพลาดได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นครับ

หากคุณกำลังมองหา tool ที่ช่วยถอดเสียงออกมาเป็นตัวอักษร สามารถทดลองใช้ Otter แอปฯ แปลงไฟล์เสียงพูดเป็นข้อความที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกได้ที่นี่

ทดลองใช้งาน Otter.ai

04 บันทึกวิดีโอ

ก่อนเริ่มต้นบันทึกวิดีโอนั้น หากต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพมากที่สุด คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของวิดีโอให้ความรู้ที่เราได้แนะนำไปในหัวข้อที่ผ่านมาเสียก่อน เพราะจะช่วยให้คุณเลือกวิธีการที่เหมาะสมมาสร้างวิดีโอ ซึ่งการสร้างวิดีโอให้ความรู้นั้น หลัก ๆ แล้วจะมีการบันทึกอยู่ทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ การบันทึกผ่านกล้อง และการบันทึกหน้าจอจากอุปกรณ์หลัก ที่จะมีการเตรียมตัวและขั้นตอนในการบันทึกวิดีโอที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไปพอสมควร

สำหรับการบันทึกวิดีโอผ่านกล้อง คุณจะต้องเตรียมสคริปต์คำพูดให้เหมาะสมและลื่นไหล รวมไปถึงต้องจัดการกับอุปกรณ์ให้มีความพร้อมมากที่สุด เพราะจะต้องบันทึกผลออกมาเป็นภาพและเสียง ซึ่งถือเป็นการบันทึกวิดีโอที่ค่อนข้างมีความท้าทาย เพราะคุณจะต้องควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องมากที่สุด เพื่อให้วิดีโอของคุณดูน่าสนใจ และมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่การบันทึกวิดีโอบนหน้าจอนั้น เบื้องต้นคุณจะต้องจัดการสิ่งที่แสดงผลบนหน้าจอให้มีความเรียบร้อยมากที่สุด เพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าใจได้ ว่าจะต้องมองรายละเอียดส่วนใดบนหน้าจอบ้าง โดยหากต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด คุณควรทำการฝึกซ้อมและลองใช้เครื่องมือเสียก่อน เพื่อให้หลังการบันทึกเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะได้ไม่ต้องแก้ไขวิดีโอมากนัก ซึ่งจุดเด่นของการบันทึกวิดีโอประเภทนี้ คือการที่สามารถแก้ไขรายละเอียดบนวิดีโอ ด้วยการบันทึกส่วนที่ผิดพลาดซ้ำได้ง่ายมากกว่านั่นเองครับ

05 แก้ไขหรือตัดต่อวิดีโอ

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการใช้เครื่องมือตัดต่อระดับมืออาชีพ จะช่วยให้คุณทำวิดีโอให้ความรู้ออกมาได้ดีและน่าสนใจมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วการเลือกใช้เครื่องมือที่แต่ละคนมีความคุ้นเคยและถนัดจะเป็นการดีมากกว่า เนื่องจากคุณจะสามารถใช้งานส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรมได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ

สำหรับเคล็ดลับที่จะทำให้ตัดต่อวิดีโอได้น่าสนใจมากขึ้นนั้น ก็สามารถเรียนรู้ได้ง่ายดายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ในเบื้องต้นนั้นเคล็ดลับที่น่าสนใจ จะประกอบด้วยการทำสิ่งต่าง ๆ ดังนี้

การแบ่งคลิปและแยกใช้เฟรม เพื่อให้สามารถแบ่งส่วนระหว่างการรับชมและตัดต่อได้ดีมากขึ้น
การเพิ่มข้อความเสริม, รูปร่าง, ลูกศร หรือสัญลักษณ์เคลื่อนไหวให้กับจุดสำคัญต่าง ๆ ของวิดีโอ
ไม่ควรใส่เพลงลงในวิดีโอให้ความรู้ แต่อาจมีการใส่เสียงที่เป็นจังหวะแบบต่าง ๆ เพื่อลดความเงียบในการเรียนแทนได้

06 การเพิ่มวิดีโอแนะนำเพิ่มเติม

การใช้วิดีโอแนะนำก่อนเข้าสู่เนื้อหาของวิดีโอให้ความรู้ จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นวิดีโอได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งควรเป็นวิดีโอสั้น ๆ ที่ไม่ได้มีรายละเอียดมากเกินไป เพราะผู้ที่สนใจเลือกดูวิดีโอการสอนโดยส่วนใหญ่ มักจะให้ความสนใจในเนื้อหา มากกว่าส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง สำหรับสิ่งที่วิดีโอแนะนำส่วนใหญ่มักจะถูกใส่ไว้นั้น ก็คือการกล่าวถึงเรื่องที่จะสอน และหัวข้อต่าง ๆ ที่จะมีอธิบายในวิดีโออย่างรวดเร็วครับ

07 การแชร์วิดีโอ

สิ่งสุดท้ายที่คุณสมควรทำหลังการทำวิดีโอเสร็จ จะเป็นการเลือกพื้นที่ที่คุณจะทำการเผยแพร่วิดีโอ เพื่อให้ตรงกันกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายที่เราสามารถนำวิดีโอการสอนไปลงไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Vimeo หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ซึ่งหากต้องการเพิ่มความมั่นใจเกี่ยวกับคุณภาพของวิดีโอให้มากยิ่งขึ้น การทดลองนำวิดีโอของคุณไปให้คนใกล้ตัวหรือผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับวิดีโอบางกลุ่มรับชมก่อน เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับตัววิดีโอ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำวิดีโอให้ความรู้

01 การไม่รู้จักผู้ฟังมากเพียงพอ

หากคุณไม่รู้จักผู้ชมมากเพียงพอ การสร้างคอนเทนต์ให้มีประโยชน์มากที่สุดก็อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะตัวคุณเองยังไม่รู้อย่างแน่ชัดเลยว่าจะให้ความรู้กับใคร ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกหัวข้อในการให้ความรู้ ซึ่งอาจไม่ใช่หัวข้อที่ดีและเหมาะสมที่สุดต่อผู้ฟังที่แท้จริง การที่คุณรู้ว่าผู้ฟังของคุณเป็นใคร จะช่วยให้คุณสามารถทำความเข้าใจผู้รับสารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ว่าปัญหาของพวกเขาคืออะไร, สิ่งที่ต้องการในการดูวิดีโอตัวนี้คืออะไร หรือแม้แต่สิ่งที่พวกเขาน่าจะชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งล้วนแล้วแต่จะทำให้การคัดเลือกข้อมูล และการจัดวางหัวข้อในการให้ความรู้ของคุณ ทำได้ดียิ่งขึ้นครับ

02 การพยายามทำให้วิดีโอมีความสมบูรณ์แบบมากจนเกินไป

โดยปกติแล้วผู้คนมักจะกังวลเกี่ยวกับการทำวิดีโอให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งก็ใช่ว่าการทำวิดีโอให้สมบูรณ์มากที่สุด จะเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอไป เนื่องจากการผลิตวิดีโอให้ครบถ้วนในทุกด้านนั้น อาจทำให้คุณพบเจอกับปัญหาในระหว่างการทำวิดีโอมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในช่วงของการเริ่มต้น หรือแม้แต่การให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ดังนั้น คุณจึงควรจำเอาไว้เสมอว่า ถึงแม้จะเป็นการสร้างวิดีโอสำหรับการสอน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องให้ความรู้ทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบเสมอไป เพราะทุกเรื่องมักจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทำให้การเรียนรู้จะต้องทำไปอย่างต่อเนื่องและไร้ขอบเขตนั่นเองครับ

03 การกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์มากจนเกินไป

ถือเป็นเรื่องปกติอย่างมากที่คนเรามักจะรู้สึกว่าไม่สามารถทำวิดีโอที่มีคุณภาพออกมาได้ หากไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งถึงแม้การมีเครื่องมือที่ทันสมัยนั้น จะช่วยให้คุณสามารถสร้างวิดีโอออกมาได้สะดวกและสนุกมากยิ่งขึ้น แต่การใช้เครื่องมือที่รองรับการผลิตวิดีโอได้ในระดับมาตรฐาน ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่มากนัก เพราะคุณก็ยังสามารถทำวิดีโอสอนออกมาได้ เช่นเดียวกันกับการใช้งานเครื่องมือระดับสูงต่าง ๆ การเลือกอัปเกรดเครื่องมือในการสร้างวิดีโอนั้น ควรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้งานสิ่งที่มีอยู่ได้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว หลังจากนั้นจึงทำการเปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อให้สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสร้างวิดีโอออกมาให้ดียิ่งขึ้นครับ

แนะนำโปรแกรมตัดต่อวิดีโอจาก Adobe Premiere pro ครับ

รีวิว Adobe Premiere Pro โปรแกรมตัดต่อที่ดีที่สุด ฟีเจอร์เด็ดๆเพียบ

Adobe จาก 2,020.16 เหลือเพียง 1,143.83 บาท/เดือน

• All apps สำหรับปีแรก รับแอป 20 รายการของ Creative Cloud เพียง ฿1,143.83/เดือน (ในปีแรก)
• นักเรียนนักศึกษาและครู ราคา ฿762/เดือน
• ซื้อ Adobe ใช้งาน Adobe Stock ฟรี 1 เดือน โหลดรูปถ่ายฟรี 10 รูป

รับส่วนลดจาก Adobe

Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา

บทสรุป

การทำวิดีโอให้ความรู้นั้นก็ถือเป็นส่วนสำคัญของหลากหลายธุรกิจ ที่จะช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ดีมากขึ้น ซึ่งการทำวิดีโอสำหรับการสอนสิ่งต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพนั้น ก็มีเทคนิคมากมายที่สามารถเรียนรู้ได้ และล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการผลิตวิดีโออื่น ๆ ในอนาคตด้วยกันทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามจากการที่การทำวิดีโอสอน เป็นสิ่งที่มักจะต้องทำอยู่แล้วในหลากหลายสาขาอาชีพ ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บทความนี้ สามารถตอบโจทย์และช่วยเหลือใครหลาย ๆ คน ในการสร้างวิดีโอที่มีคุณภาพออกมาได้ไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

10 เทคนิคทำวิดีโอให้ความรู้ เพิ่มยอดขายให้กับบริษัท