10 โปรแกรมใช้แทน Trello ฟรี มีอะไรบ้างมาดูกัน

goodownday

หลายครั้งหลายหนเลยนะครับที่เรามักจะมองหาแอปพลิเคชันหรือเครื่องมือที่ช่วยให้งานของเราเดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเวลามันเป็นเงินเป็นทอง จะมามัวเสียเวลาอยู่กับเรื่องบางเรื่องอย่างเช่น งานเสร็จไม่ทันตามกำหนด ตามงานลูกทีมไม่ครบ หรือจำกันไม่ได้ว่า งานมันตกหล่นหรือผิดพลาดตรงขั้นตอนไหน กลายเป็นที่มาของการหาเครื่องมือมาช่วยเหลือ

จากการศึกษาของบางที่ บ่งบอกว่า พนักงานราว 30% เชื่อว่าแอปพลิเคชันพวกนี้จะได้เพิ่ม productivity ได้ และเมื่อนึกถึงแอปพลิเคชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หลายคนก็มักจะแนะนำ Trello 

แล้วที่จริง Trello มันคืออะไรกันล่ะ?

ถ้าพูดกันอย่างง่ายๆ Trello ก็คือเครื่องมือการจัดการโปรเจกต์ที่ช่วยให้เราดูแลจัดระเบียบงานต่างๆ ของเขาให้มองเห็นบนหน้าจอ เราสามารถเพิ่มงานใหม่เข้ามา พร้อมใส่กำหนด due date เพิ่มข้อมูลรายละเอียด แนบเนื้อหาและลิงก์ประกอบ สร้างเช็กลิสต์ แปะป้าย มอบหมายงานให้สมาชิกในทีมได้ 

ความง่ายของการใช้งานเครื่องมือชนิดนี้ก็คือ การที่สามารถ drag and drop การ์ดงานไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้เมื่อสถานะของงานนั้นเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนั่นก็ทำให้มันใช้งานง่ายและกลายเป็นที่นิยมนั่นเองครับ

แถมยังมีให้ใช้ทั้งใน iOS, Android และในคอมพิวเตอร์ แถมชิงก์ข้อมูลต่อกันตลอดเวลาไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน 

แต่เมื่อของมันมีข้อดี มันก็ย่อมมีข้อด้อย เมื่อทีมงานขยายขนาดใหญ่โตขึ้น สมาชิกแต่ละคนก็จะเจอปัญหาการได้รับเมลแจ้งสถานะงานบ่อยครั้งขึ้น หรือบอร์ดนั้นก็อาจจะโหลดช้าลงเพราะมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ถ้าต้องการจะได้เครื่องมือเดิมที่ใช้งานได้ดีและเร็วขึ้นก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง อย่างต่ำๆ ก็ 9.99 เหรียญต่อคน แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องมือที่ดี แต่ก็สามารถทดแทนได้ด้วยเครื่องมือตัวอื่นเช่นกัน


ทางเลือกอื่นนอกเหนือจาก Trello มีอะไรกันบ้าง?

คราวนี้ เราจะขอนำเสนอเครื่องมือบริหารจัดการงานที่ไม่มีค่าใช้จ่ายตัวอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีหรืออาจดีกว่าสำหรับทุกคน เริ่มกันเลยนะครับ

Asana

เครื่องมือตัวนี้จะช่วยให้การทำงานเป็นทีมและการสื่อสารระหว่างกันเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วย Asana เราจะสามารถแจกจ่ายงาน ดูความคืบหน้า และสื่อสารพูดคุยกันได้ในที่เดียว  ความโดดเด่นของมันนั้นทั้งเร็ว responsive หน้าตาสวยงาม และก็ยังมีฟังก์ชันที่ครบครันอีกด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์โน้ต การแนบไฟล์ การติดและกดไลก์งานคนอื่น เพิ่มกำหนดการและรับอีเมลแจ้งเตือนเมื่อมีคนแจกจ่ายงานให้หรือมีคนในทีมแก้ไขงาน/โปรเจกต์

asana
Asana

นอกจากจะเปิดให้เราอัปไฟล์ที่มีขนาดไม่เกิน 100MB ได้แล้ว Asana ก็มีข้อดีตรงที่ไม่จำกัดพื้นที่อีกด้วย ไม่พอ การที่มันเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ มากมาย อย่างเช่น Dropbox, Hipchat, Zendesk และอีกมากมาย ทำให้ Asana เพียงตัวเดียวก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของเราอย่างมากแล้วล่ะ

ไม่เพียงจะมีหน้าตาแบบ Kanban-style ละม้ายคล้ายกับ Trello ทำให้ไม่ต้องปรับตัวมากหากจะเปลี่ยนไปใช้แล้ว ก็ยังสามารถแสดงตารางงานของเราในแบบปฏิทินและแบบลิสต์รายการได้อีกด้วย 

ราคา: Asana จะเปิดให้ใช้งานฟรีในกรณีไม่เกิน 15 ผู้ใช้งาน ทั้งยังเปิดให้เราใช้งานได้อย่างไม่จำกัดจำนวนโปรเจ็กต์และปริมาณการสนทนา สำหรับเวอร์ชันโปรจะอยู่ $10.99/เดือนครับ


ClickUp

ClickUp ตัวนี้เปิดตัวในปี 2017 ในฐานะทางเลือกและคู่แข่งของ Trello ก็เช่นเดียวกับเครื่องมือบริหารจัดการงานทั่วๆ ไป เครื่องมือตัวนี้จะเปิดให้เราแจกจ่ายงานให้กับเพื่อนร่วมทีม เขียนคอมเมนต์ และแจ้งความเปลี่ยนแปลงให้เพื่อนๆ ทราบ ทั้งสร้างหน้าจอหลัก (dashboard) ได้หลายแบบ 

clickup
ClickUp

สิ่งที่ทำให้มันเป็นโปรแกรมใช้แทน Trello ได้ นั่นก็คือความสามารถด้านการเรียนรู้ หรือ machine learning นั่นเอง แม้จะยังเป็นเวอร์ชันเบต้าอยู่ก็ตาม ด้วยเพราะมันมีระบบ AI ในตัวเอง จึงเป็นแอปพลิเคชันที่น่าจับตามองมากๆ ตัวหนึ่งเลย เมื่อเราสร้างงานใหม่ ClickUp จะคาดการณ์ล่วงหน้าโดยอัตโนมัติว่าเราจะจ่ายงานให้กับใคร และยังทำได้ถึงขนาดระบุกำหนดเวลาได้อย่างแม่นยำอีกด้วยนะ

ผู้สร้าง ClickUp มุ่งหมายจะลดปริมาณงานที่ซ้ำซ้อนเพื่อที่จะเพิ่ง productivity ให้เพิ่มขึ้นสูงสุด และนี่คือคุณสมบัติที่น่าสนใจของแอปพลิเคชันตัวนี้ครับ

  • แจกจ่ายงานให้กับลูกทีมหลายๆ คนในงานเดียวกันได้
  • มีระบบตรวจจับการทำงานร่วมกันซึ่งจะทำให้มองเห็นว่าใครกำลังเปิดดู คอมเมนต์และแก้ไขแบบเรียลไทม์
  • ใส่คอมเมนต์ได้
  • มีฟังก์ชันให้สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้หลายงานพร้อมกันในครั้งเดียว
  • เปิดงานให้เป็นแท็บได้
  • แสดงความคืบหน้าของงานในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ และติดตามระยะเวลาที่ใช้

ราคา: มีแพลนที่ “Free Forever” ให้ใช้งานอยู่ แถมยังใช้สร้างโปรเจกต์งานได้ไม่จำกัดแต่มีพื้นที่ให้ 100MB นะครับ ส่วนแพลนแบบโปรก็เริ่มต้นที่ $9/เดือนครับ


Basecamp

มาถึงผู้บุกเบิกในสมรภูมินี้กันบ้าง Basecamp เป็นเครื่องมือบริหารจัดการและพื้นที่การทำงานร่วมกันเจ้าแรกๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2004  

basecamp
Basecamp

Basecamp รวมเอาเครื่องมือหลัก 6 อย่างที่ทุกทีมงานจำเป็นต้องใช้เพื่อให้งานเสร็จตรงเวลาและยังอยู่ในงบประมาณ แถมยังมี message board เอาไว้เก็บข้อมูลการพูดคุยอัปเดต มีแชทรูมเอาไว้สนทนาเรื่อยเปื่อยระหว่างสมาชิก กำหนดเวลาโพสต์ ทั้งสามารถแชร์ไฟล์และแจกแจงรายงานความคืบหน้า

ดีไซน์ของ Basecamp ได้รับการปรับปรุงไปมาก มันทำงานได้ทั้งบนเว็บและแอป มันมีแอปทั้งบนวินโดวส์, แมค, แอนดรอยด์ และ iOS เลยนะครับ

ราคา: ที่นี่จะเปิดให้ทดลองใช้งานฟรีได้ 30 วัน และจะมีค่าใช้จ่ายราคาเดียว $99/เดือน ไม่มีให้เลือกแพลน สร้างโปรเจ็กต์ได้ไม่จำกัด จำนวนลูกทีมก็ไม่จำกัด พื้นที่ก็ใช้ได้ถึง 500 GB


ProofHub

เป็นอีกหนึ่งซอฟต์แวร์บริหารจัดการงาน โปรเจกต์และการประสานงานภายในทีมที่น่าสนใจไม่แพ้ Trello เลยแหละครับ ถ้าคิดถึงประเด็นที่ว่า เราจำเป็นต้องใช้เครื่องมือแชทเพิ่มมาอีกตัวหนึ่ง ProofHub ก็น่าจะช่วยทดแทนความต้องการได้เป็นอย่างดี

proofhub how it works
ProofHub

โดยตัวมันเองจะแสดงผลออกมาเป็น 3 แบบ คือ แบบ Gantt Chart (แสดงเป็นไทม์ไลน์) แบบลิสต์รายการ และแบบปฏิทิน เราสามารถจะเพิ่มข้อมูลงานเข้าไปแล้วจัดลำดับความสำคัญได้ แจกจ่ายให้คนหลายคนทำงานร่วมกันได้ แท็กชื่อสมาชิก แนบไฟล์ กำหนดวันแรกและสิ้นสุดงาน ตั้งกำหนดเวลาโดยประมาณ แม้กระทั่งติดตามเวลาที่ใช้ไปกับแต่ละงานก็ได้ด้วย

ProofHub จะแตกต่างจาก Trello ตรงที่จะอนุญาตให้เรากำหนดระดับขั้นการเข้าถึงของสมาชิกและลูกค้าได้นอกเหนือจากระดับการเข้าถึงเริ่มต้น นอกจากนี้ ก็ยังมีฟังก์ชันการสร้างรายงานที่จะแสดงข้อมูลทรัพยากรและโปรเจกต์ที่มี ทั้งยังบอกว่าตรงไหนโหลดอยู่บ้าง ผู้ใช้สามารถสรุปกำหนดเวลาของงานมาส่งต่อเข้าแอปอื่นได้ด้วย

ราคา: ProofHub จะมีแพลนเริ่มต้นเรียกว่า Essential plan มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $54/เดือนถ้าจ่ายเป็นรายปี ส่วนแพลนที่ใหญ๋กว่านั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $89/เดือนถ้าจ่ายเป็นรายปี โดยเราสามารถทดลองใช้งานก่อนได้ฟรี 14 วันครับ


Teamwork

มาถึง Teamwork อีกหนึ่งเครื่องมือที่ควรค่าแก่การแนะนำ มันเป็นแพลตฟอร์มการบริหารงานที่รันบนคลาวด์และใช้งานได้หลากหลายครอบคลุม เป็นอีกเครื่องมือที่ยอดยเยี่ยมเหมาะสำหรับคนที่มองหาตัวเลือกอื่นนอกเหนือจาก Trello และมองหาโซลูชันที่รองรับการเติบโตของธุรกิจได้

teamwork
teamwork

Teamwork จะช่วยเราจัดการหลายๆ โปรเจกต์อันซับซ้อน ช่วยสื่อสารภายในทีม และทำได้แม้กระทั่งจัดการคำขอด้วยระบบ ticket ซึ่งจะช่วยให้ทำงานกับลูกค้าภายนอกและอนุญาตให้เขาเข้ามาใช้งานได้ มันเลยกลายเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับเอเจนซี่ทั้งหลายไงล่ะครับ

นอกจากนี้ Teamwork ยังมีจุดเด่นด้านการทำงานร่วมกันแบบรีโมตอีกด้วย คงต้องขอบคุณฟังก์ชันการซิงค์และแชทที่ช่วนให้สามารถแก้ไขไฟล์ร่วมกันได้ แถมยังสามารถจัดการปริมาณงานของทีมได้จากบนแดชบอร์ด และแจกจ่ายงานโดยไม่ต้องเช็กอินทีละคน

คุณสมบัติที่มีในเครื่องมือชนิดนี้ก็เช่น

  • Gantt charts
  • การติดตามเวลา
  • การสร้างรายงานและวิเคราะห์
  • การแสดงผลแบบบอร์ด รายการ และพอร์ตโฟลิโอ
  • การบัญชี
  • การทำงานกับ third-party
  • Project templates

ราคา: ที่นี่มีแพลนประเภท ‘Free Forever’ ให้สำหรับโปรเจกต์ขนาดเล็กไม่เกิน 5 คนพร้อมให้พื้นที่ 100MB แต่ถ้าแอนวานซ์กว่านั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ $10/เดือนที่ให้ใช้งานได้ครบครัน


Jira

สำหรับคนที่กำลังมองหาโปรแกรมใช้แทน Trello นี่คืออีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากลองใช้ Jira นั้นออกแบบมาสำหรับทีมทำซอฟต์แวร์เป็นการเฉพาะ เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้กระบวนการวางแผน ติดตามความก้าวหน้า และปล่อยซอฟต์แวร์ของเราให้เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบมากที่สุด โดยเราจะสามารถประเมินกำหนดเวลาของโปรเจกต์และมองเห็นความคืบหน้าได้ด้วยรายงานที่สร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

jira
Jira

ด้วย Jira เราจะสามารถแจกจ่ายงาน ติดตามความคืบหน้าของแต่ละโปรเจกต์ย่อยโดยที่จะมองเห็นทุกอย่างและแสดงรายงานแบบเรียลไทม์ ทั้งหมดก็เพื่อปรับปรุงเพอร์ฟอร์แมนซ์ของทีมให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง

นอกเหนอจากนั้น เราก็ยังสามารถเชื่อมต่อ Jira เข้ากับโปรแกรม add-ons ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Hipchat, Zephyr, Bitbucket, Confluence และอีกมากได้ด้วย ทั้งยังมีแอปบนมือถือที่ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์เวอร์สำหรับซิงค์ข้อมูลได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เรียกได้ว่าสะดวกและมีประสิทธิภาพมากมายเลยเชียว

ราคา: ที่นี่จะเปิดให้ใช้งานได้ฟรี 7 วัน สำหรับทีมที่มี 1-10 คน จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ $10/เดือนครับ


Airtable

นี่คือทางเลือกที่ดีเยี่ยมอีกหนึ่งตัว Airtable ด้วย interface ที่ปรับแต่งได้ของมัน จึงสามารถปรับให้ทำงานเข้ากับความต้องการเฉพาะของแต่ละทีมได้ดี ถ้ากำลังมองหาฟังก์ชันการค้นหาและกรองอยู่ล่ะก็ Airtable น่าจะเป็นจะตัวเลือกที่ใช่เลยแหละ

airtable
Airtable

หลายคนอาจจะชอบการทำงานกับ Spreadsheet แต่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนถูกจำกัดไม่อาจก้าวข้ามการทำงานกับตัวอักษรที่อยู่ในเซลไปได้ Airtable จะทำให้การเพิ่มข้อมูลงาน การจัดการ และการใช้ข้อมูลร่วมกันเป็นเรื่องสนุกขึ้นด้วยหน้าตาที่เต็มไปด้วยสีสันและแอปที่ใช้ง่ายทั้งบนมือืถอและคอมพิวเตอร์

คงเป็นเรื่องที่ดียิ่งถ้าไม่ต้องติดแหง็กอยู่กับหน้าตาแบบ Spreadsheet ตลอดเวลา เพราะ Airtable จะเปลี่ยนข้อมูลของเราให้กลายเป็นแกลเลอรี่ หรือเป็น Kanban แบบ Trello ที่เราสามารถจะแปะโน้ตขนาดยาวลงไป ใส่เช็กบ็อกซ์ แนบไฟล์ หรือลิงก์เชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลอื่นๆ ทุกสิ่งเป็นไปได้บนเครื่องมือตัวนี้ครับ

นอกจากนี้ ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปสำนักงานตัวโปรดไม่ว่าจะเป็น Slack, Gmail, Dropbox, Google Drive, Zendesk และแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ อย่าง Facebook, Twitter, Instagram และอื่นๆ ของแบบนี้ต้องลองใช้งานด้วยแล้วล่ะ

ราคา: สำหรับผู้ที่ใช้งานไม่เกิน 2GB สามารถใช้งานได้ฟรี แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น ก็มีแพลนที่ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ $10/เดือนให้ครับ


KanbanFlow

มาถึง KanbaFlow กันบ้าง เครื่องมือทางเลือกช่วยเราจัดการโปรเจกต์ หน้าตาของมันนั้นก็ตามชื่อเลย เครื่องมือนี้จะมีลักษณะเป็น Kanban board ที่เข้ากันดีกับผู้ใช้งานที่ต้องการจะจัดการเวิร์กโฟลว์ของตนและถนัดกับรูปแบบนี้

kanbanflow
KanbanFlow

KanbanFlow จะช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับการทำงานในปัจจุบันมากกว่าจะสาละวนอยู่กับงานใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา คุณสมบัติที่เลือกกำจัดชิ้นงานให้เฉพาะที่อยู่ตรงหน้าทำให้เรามี productivity สูงสุด และด้วยตัวจับเวลา Pomodoro นี่แหละที่ทำให้งานของเราลุล่วงไปอย่างมีประสิทธิภาพเลยแหละครับ

นอกจากนี้ ก็ยังเปิดให้เราสามารถดูการวิเคราะห์และรายงานต่างๆ ที่จะช่วยให้มองเห็นข้อบกพร่องและแก้ไขปัญหาคอขวดพวกนั้นได้ ไม่เพียงเท่านั้น เพราะมันยังแสดงออกมาเป็นกราฟและแผนภูมิหลากหลายแบบ แถมยังคาดการณ์อนาคตได้ด้วยข้อมูลจากอดีตอีกด้วย

ราคา: มีทั้งแบบฟรีที่เขาเลือกฟังก์ชันการทำงานบางส่วนมาให้ ซึ่งก็รวมทั้งจำกัดจำนวนคนใช้งานและจำนวนบอร์ด แต่สำหรับเวอร์ชันพรีเมี่ยมนั้น จะมีฟังก์ชันต่างๆ ครบ ซึ่งเขาจะคิดเราที่ $5 ต่อผู้ใช้ต่อเดือนครับ


หนึ่งในเครื่องมือบริหารจัดการงานที่ทรงพลัง ช่วยให้เราสามารถจัดการโปรเจกต์ วางแผนทรัพยากร การบัญชี และการร่วมกันทำงานให้เป็นไปแบบอัตโนมัติ Mavenlink ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับองค์กรธุรกิจด้านการบริการ มันจะช่วยเชื่อมโยงเหล่าพนักงาน งานปลีกย่อยต่างๆ และทรัพยากรต่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองครับ

mavenlink
Mavenlink

Mavenlink เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมใช้แทน Trello ได้ด้วยคุณลักษณะอันหลากหลาย มีทั้งความสามารถในการจัดการ ด้วยการตรวจสอบงบ เวลาและมาร์จิ้น จึงทำให้แต่ละโปรเจกต์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เราสามารถบริหารจัดการหลายๆ โปรเจกค์ที่เชื่อมโยงกันหลายแผนกได้ เครื่องมือนี้มีระบบวิเคราะห์ขั้นสูง ช่วยระบุจุดที่เป็นปัญหา และแนะแนวทางที่ดีที่สุด ส่งผลให้ผู้จัดการและพนักงานสามารถควบคุมส่วนต่าง ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรและคาดการณ์รายได้และต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Google, Microsoft และ Salesforce ได้อีกด้วย

ราคา: ที่นี่มีแพลนแบบฟรีใช้แบบไม่จำกัดจำนวนโปรเจกต์และทีมงาน แต่จะจำกัดพื้นที่ที่ให้มาเพียง 500 MB ซึ่งถ้าอยากได้อะไรที่มากกว่านั้น ก็ต้องเลือกใช้แพลนที่มีค่าใช้จ่าย โดยเริ่มต้นที่ $19/เดือนครับ


Taiga

มาถึงอีกเครื่องมือหนึ่ง ตัวนี้เป็นแอปพลิเคชันการบริหารจัดการงานที่เป็นโอเพนซอร์สแถมยังคล่องตัวเอามากๆ เขาออกแบบมาสำหรับเหล่านักพัฒนา นักออกแบบ และผู้ดูแลโปรเจกต์ทั้งหลาย มันมีอินเตอร์เฟซที่สะอาดตาและใช้งานง่ายมากๆ เลยทีเดียว

KANBAN test10
Taiga.io

เหตุมันเริ่มที่ว่า นักพัฒนาของ Taiga ต้องการสร้างเครื่องมือจัดการโปรเจกต์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีการประนีประนอมใดๆ ใช้งานได้ทั้งแบบ Scrum และ Kanban ออกแบบให้ปรับใช้ได้กับกลุ่มคนทำงานใดๆ ก็ได้ ทั้งยังมีเครื่องมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิกิ, การทำงานร่วมกันในทีม, การติดตามจุดบกพร่อง การแสดงรายงาน การติดตามงาน การจัดการด้านโซเชียลและ API แบบเปิด

ระบบวิกิที่บิวต์อินเข้ามาจะทำให้เอกสารต่างๆ ของโปรเจกต์มีความปลอดภัยมากขึ้น สมาชิกของทุกทีมจะสามารถมีส่วนร่วมแก้ไขและส่งไฟล์เข้าสู่วิกิ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของตัววิกิ ทั้งยังเปิดให้ผู้ใช้งานนำเข้าข้อมูลจาก Trello, Jira, GitHun และอื่นๆ เข้าสู่ Taiga ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

Taiga มีให้ใช้งานทั้งในแอปบนระบบแอนดรอยด์, iOS และวินโดวส์โมบายล์ ทำให้สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการเลยละครับ

ราคา: ในฐานะที่เป็นโอเพนซอร์ส Taiga จึงเป็นของฟรี แต่ก็เปิดให้เราใช้งานบางคุณสมับติได้เพิ่มเติมด้วยค่าใช้จ่ายที่เริ่มต้นเพียง $7/เดือนเท่านั้นเอง


สรุป

ร่ายยาวมาขนาดนี้พร้อม 10 โปรแกรมใช้แทน Trello พร้อมข้อมูลคุณสมบัติและฟังก์ชันที่เครื่องมือเหล่านี้มี คิดว่าน่าจะจุใจมากพอสำหรับคนที่มองหาอย่างแน่นอน

อย่าลืมติดตามบทความของเราเพิ่มเติมได้จากด้านล่างนี้ด้วยนะคร้าบ

บทความที่เกี่ยวข้อง