13 โปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ ห้ามพลาด
การระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งไปจากเดิมมาก โดยเฉพาะการเรียนและทำงานผ่านออนไลน์ ซึ่งกลายมาเป็นเรื่องที่เราทำกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่เพราะกระแสการทำงานในลักษณะนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน ทำให้คนทำงานออนไลน์ต้องพบเจอกับความท้าทายและปัญหามากมาย จนหลายคนเริ่มมองหาวิธีการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานออนไลน์มากขึ้น
และนักเขียนก็เป็นอาชีพแรก ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง จากการทำงานในสำนักงาน มาเป็นการทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งดูเหมือนว่าการทำงานจากที่บ้านนั้น จะให้ผลลัพธ์ของการทำงานที่ดีกว่าอย่างมาก เมื่อเทียบกันกับการทำงานในสำนักงาน และในปัจจุบันก็มีตัวช่วยมากมาย ที่จะทำให้การทำงานจากสถานที่ต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และในวันนี้สิ่งที่เราจะแนะนำให้กับคุณ ก็คือตัวช่วยอย่างโปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ ที่นักเขียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันเลือกใช้
รวม 13 โปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ ตอบโจทย์การใช้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์
01 Slack – เครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการสื่อสารในการทำงานออนไลน์
งานเกือบทุกชนิดจำเป็นต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการทำงานที่ดีที่สุด ซึ่งนักเขียนเองก็มักจะถูกรุมเร้าไปด้วยข้อความต่าง ๆ เป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่สำคัญอย่างมากจึงเป็นการมองหาเครื่องมือที่ช่วยจัดการกับข้อความเหล่านั้น ให้มีประสิทธิภาพได้มากที่สุด
ซึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจก็คือ Slack แอปพลิเคชันสำหรับการสื่อสาร ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงกว้าง เป็นตัวช่วยให้การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นที่สุด ด้วยฟีเจอร์ที่มีทั้งการสร้างช่องแชต, การแชร์ไฟล์ และการคอมเมนต์เกี่ยวกับข้อแนะนำในงานต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สุดโดดเด่น ที่เรียกว่า Slackbot ที่จะใช้บอทช่วยจัดการสิ่งต่าง ๆ เช่น การตั้งค่าเตือนเวลาแชร์เอกสาร เป็นต้น
02 Zoom – โปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานแบบ Remote Working
เมื่อไม่นานมานี้ Zoom กลายเป็นแอปพลิเคชัน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำงาน เนื่องจากสามารถใช้ฟังก์ชันการโทร เพื่อทำงานในระยะไกลได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้การสื่อสารในระหว่างแผนก และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สามารถทำได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด โดยสิ่งที่ทำให้ Zoom มีความน่าสนใจในการใช้งานนั้น มาจากมาตรฐานความปลอดภัย ที่ทางบริษัทได้ออกแบบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังสามารถใช้งานได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ที่มีสเปกสูงมากนัก และยังรองรับได้บนทุกระบบปฏิบัติการรวมไปถึงบนเบราวเซอร์อีกด้วย
03 Plutio – โปรแกรมทำงานออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเขียน
ในการทำงานออนไลน์คุณจะต้องติดตามความเป็นไปเกี่ยวกับงานอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถสื่อสารกับผู้อื่นระหว่างการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บางครั้งคุณจะต้องใช้งานแอปพลิเคชันมากมาย และส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในการทำงาน หากคุณต้องการให้การทำงานของแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมต่าง ๆ สามารถอยู่ร่วมกันบนแพลตฟอร์มเดียว Plutio เป็นตัวช่วยที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะสามารถทำได้ทั้งเรื่องติดตามเวลาทำงาน, ใบแจ้งหนี้, สัญญา, การแชต ไปจนถึงการทำแบบฟอร์มและแบบสำรวจ ทำให้สามารถตอบโจทย์การทำงานได้อย่างดีทั้งสำหรับองค์กรและงานอิสระ
04 Google Drive โปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการข้อมูล
การสร้างงานเขียนขึ้นมานั้นจะมีส่วนประกอบมากมาย ที่เกิดขึ้นในระหว่างการสร้างเนื้อหา ส่งผลให้ในการทำงานนั้น คุณจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูล หรือทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นลักษณะของไฟล์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบันทึกร่างและการจัดเก็บรูปภาพในการทำงาน ซึ่งเมื่อมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแล้ว หนึ่งในตัวช่วยที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ก็ต้องเป็น Google Drive อย่างแน่นอน ทำให้คุณสามารถจัดเก็บงานเขียนหรือข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงจดบันทึกเกี่ยวกับการทำงาน ด้วย Google Notes ที่สำคัญหากต้องการเข้าถึงข้อมูล หรือใช้งานสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายในแพลตฟอร์ม ก็ยังทำได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
05 Forest – โปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายระหว่างการทำงาน
สมาธิเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้คุณสามารถสร้างงานเขียนออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนรายงาน, บทความ หรือแม้แต่บล็อก เนื่องจากเขียนสิ่งต่าง ๆ นั้น ทุกรายละเอียดจะต้องสอดคล้องกัน เพื่อให้อ่านได้อย่างต่อเนื่องและเข้าใจง่ายมากที่สุด ซึ่งบางครั้งการทำงานอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เราไม่โฟกัสกับการทำงานได้ดีนัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ดังนั้นหากคุณกำลังพบเจอปัญหาในลักษณะดังกล่าว แอปพลิเคชัน Forest จะเป็นตัวที่ช่วยคุณให้คุณทำงานได้อย่างสงบมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ตัวแอปฯ จะหยุดการแจ้งเตือนทุกอย่างลง จนกว่าจะถึงเวลาที่คุณตั้งเอาไว้ โดยจะแตกต่างกับการปิดแจ้งเตือนของสมาร์ตโฟนทั่วไป เนื่องจากคุณจะได้รับเหรียญ สำหรับใช้เพื่อปลูกต้นไม้ในตัวแอปฯ ด้วยนั่นเอง
06 Rytr – เครื่องมือเขียนบทความ AI ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เขียนภาษาไทย
ข้อดี
- เขียนภาษาไทยได้
- เลือก Mood and tone ของภาษาได้ แต่ใช้งานได้ดีเฉพาะในภาษาอังกฤษ
- ภาษาอังกฤษฉลาดมาก
- วางลำดับ outline ได้ดี น่าอ่านและเข้ากับ Mood and tone ของภาษา
ข้อเสีย
- ภาษาไทยไม่สวยเท่าไร เหมือนผ่านการแปลจาก Google translate (บางทีกดแปลเองยังสวยกว่า)
- ลักษณะโครงสร้างและคำยังดูแปลกประหลาด นิดหน่อย อาจจะต้องใช้คนมาแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้ภาษาดูลื่นและอ่านง่ายมากกว่านี้
- ในเรื่องของ Tone ภาษาไทย ยังไม่เวิร์คเท่าไร ต้องไปหัดมาเพิ่มอีกเยอะเลย
ราคา
เริ่มต้นใช้งานแบบฟรี 5000 คำ สามารถเขียนบทความขนาดสั้นแบบทดลองได้
แบบเสียเงินเริ่มที่ 318 บาท/เดือน
จริงๆ เรามีบทความด้านโปรแกรมช่วยเขียนจาก AI อีกหลายตัวที่อยากแนะนำเลยนะครับ สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ตามบทความนี้เลย รีวิว 5 AI Writer โปรแกรมเขียนบทความ อีเมล์ social media
07 Grammarly – เครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเขียนบทความภาษาอังกฤษ
Grammarly เป็นโปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ที่เขียนงานในภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ เนื่องจากคนเรามีความแปลกประหลาดในการใช้คำของแต่ละภาษาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาของตนเองหรือภาษาต่างประเทศก็ตาม เครื่องมือตัวนี้จะช่วยตรวจเช็กงานเขียนให้ถูกต้องตามโครงสร้างของไวยากรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้งาน AI รวมไปถึงตรวจสอบการเว้นวรรคและการใช้เครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ ให้ถูกต้องไปพร้อมกันอีกด้วย โดยสามารถทำได้ผ่านทางเบราวเซอร์และยังเลือกใช้เป็นส่วนเสริมใน Google Doc ได้ด้วยเช่นกัน
08 Hemingway Editor – โปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับปรับแต่งโครงสร้างบทความให้อยู่ในมาตรฐานการอ่านของแพลตฟอร์มออนไลน์
อีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นในการสร้างเนื้อหางานเขียน คือ การทำให้สิ่งต่าง ๆ มีความชัดเจนมากที่สุด โดยเฉพาะบทความเชิงวิชาการ, บทความภาษาต่างประเทศ หรือแม้แต่บทความที่มีรายละเอียดเชิงลึกเป็นพิเศษ ซึ่งในการเขียนบทความลักษณะเหล่านี้ Hemingway Editor จะช่วยให้คุณสร้างผลงานออกมาได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างของประโยค และเลือกคำที่เหมาะสมมากกว่ามาใช้งานแทน ทำให้ภาพรวมของการอ่านบทความดีมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้คะแนนของบทความสำหรับการใช้ในแพลตฟอร์มออนไลน์ สูงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามโปรแกรมนี้สามารถใช้ได้กับงานเขียนภาษาอังกฤษเท่านั้น
09 Trello – โปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการตารางงาน
การทำงานเขียนของนักเขียนออนไลน์นั้น สิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่น ๆ จะเป็นการจัดการกับตารางงาน เพื่อให้สามารถส่งงานได้อย่างทันเวลา เนื่องจากนักเขียนโดยส่วนใหญ่ มักจะรับงานหลายชิ้นในเวลาเดียวกัน ทำให้ในบางครั้งอาจเกิดความสับสนในเรื่องของลำดับการทำหรือส่งงาน เพื่อแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ Trello จึงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณอย่างมาก ด้วยความสามารถในการสร้างช่องของงานได้หลากหลาย และการเคลื่อนย้ายการ์ดงานต่าง ๆ ที่ทำได้สะดวก ที่สำคัญในแต่ละการ์ดงาน ยังสามารถเลือกใช้ฟีเจอร์สำหรับอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของงานได้ด้วยเช่นกัน
10 Chatwork – โปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับการสื่อสารและจัดลำดับการทำงาน
สุดท้ายเป็นโปรแกรมที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือการส่งต่องานอย่างเป็นระบบ ด้วยการใช้ฟังก์ชันที่ถูกติดตั้งมาให้ในตัวแอปฯ ซึ่งมีตั้งแต่การสร้างการ์ดงาน และมอบหมายให้กับผู้ที่อยู่ในห้องแชต ไปจนถึงกำหนดระยะเวลาการส่งงาน เพื่อให้งานถูกส่งต่อไปทำอย่างเป็นระบบมากที่สุด นอกจากนี้ยังใช้งานได้ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน เพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งาน Chatwork ในทุกสถานการณ์
11 Canva Docs
Canva Docs คือโปรแกรมช่วยสร้างและจัดการ Documents ที่สามารถแก้ไขได้ออนไลน์ ช่วยให้คุณออกแบบเอกสารพร้อมแทรกวิดีโอ รูปภาพ กราฟิก แผนภูมิ กราฟและอื่นๆได้บนโปรแกรมเดียว
เป็นโปรแกรมที่มาแรงในการจัดการ Docs ในปีนี้เลยนะครับ ด้วยฟีเจอร์ล่าสุดที่ออกมาที่ใช้งานร่วมกับ AI ทำให้นักเขียนสามารถเพิ่มพลังการเขียน ครบ จบในที่เดียวเลยครับ
สำหรับนักเขียนเองจะเหมาะมากๆสำหรับการวางแผนการเขียนที่ต้องทำงาน collaboration กันหลายๆ คน และจะสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับท่านที่จะต้องแทรกภาพลงในเอกสาร เช่นภาพกราฟิก ภาพตกแต่ง แผนภูมิ กราฟรูปแบบต่างๆ หรือวิดีโอ เพราะโปรแกรมนี้จะมาพร้อมกับรูปภาพจำนวนมาก ให้เรากดแทรกใช้งานได้ทันทีแบบไม่ผิดลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ
มาทดลองใช้งานกันได้เลยกับ Canva Docs
12 Notion
Notion คือแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์จดบันทึกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมงานไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือองค์กรต่างๆ หรือส่วนบุคคล จัดการความรู้ที่กระจัดกระจายให้เป็นระเบียบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
Notion ได้ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับคอนเซปต์ของโครงสร้างของเลโก้ ที่จะช่วยให้คุณเพิ่ม ต่อเติม ตกแต่ง เชื่อมต่อ จัดเตรียมแบบเอกสาร เทมเพลตสำเร็จรูป สร้างเลย์เอาต์โครงสร้างของข้อมูลที่ซับซ้อนได้ด้วยตนเอง
เรามาดูข้อดีกันสักนิดนะครับ ว่า Notion จะช่วยให้นักเขียนอย่างเราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างไรกันบ้าง
1. เทมเพลตและฐานข้อมูล: Notion มีเทมเพลตและฐานข้อมูลมากมาย
2. การทำงานร่วมกัน: แนวคิดทำให้การทำงานร่วมกับนักเขียนหรือบรรณาธิการคนอื่นๆ ในโครงการเนื้อหาของคุณเป็นเรื่องง่าย
3. ปรับแต่งได้: ความคิดปรับแต่งได้สูง ช่วยให้คุณปรับแต่งพื้นที่ทำงานให้เหมาะกับความต้องการของเราได้ เทมเพลตฟรีมีเป็นร้อยเลยนะครับ เช่นเทมเพลตวางแผนการเขียน, การวางแผน schedule, ตารางงาน
สรุปได้ว่า Notion เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและหลากหลายที่สามารถช่วยให้ผู้เขียนเนื้อหาจัดระเบียบ ทำงานร่วมกันกับผู้อื่น และรวบรวมและจัดการการวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
เหมาะสำหรับคนชอบการจัดการตารางแบบปรับแต่งได้ตามใจชอบด้วยนะครับ
13 Quillbot
Quillbot เป็นเครื่องมือ AI ช่วยตรวจการเขียนที่ล้ำสมัยที่ให้ประโยชน์อย่างมากแก่ผู้เขียนเนื้อหาในหลายๆ ด้าน มาดูข้อดีของโปรแกรมนี้กันหน่อยดีกว่านะครับ
1. ประหยัดเวลา: Quillbot สามารถช่วยคุณสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงได้ในเวลาเพียงเศษเสี้ยวของเวลาที่ใช้ในการเขียนตั้งแต่ต้น สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักเขียนที่มีกำหนดเวลาที่จำกัดหรือต้องผลิตเนื้อหาจำนวนมาก
2. ปรับปรุงคุณภาพการเขียน: Quillbot ใช้อัลกอริทึมขั้นสูงและรูปแบบภาษาเพื่อสร้างเนื้อหาที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีโครงสร้างที่ดี AI สามารถช่วยให้คุณผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงกว่าที่เราจะตรวจทานได้เองนะครับ
3. เขียนได้มากขึ้น: Quillbot สามารถช่วยคุณในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณโดยให้คุณมุ่งเน้นไปที่ด้านอื่น ๆ ของการสร้างเนื้อหา เช่น การค้นคว้าและการแก้ไข ขณะที่มันจัดการการเขียนเริ่มต้นให้กับคุณ
4. ประหยัดค่าใช้จ่าย: Quillbot เป็นโซลูชันราคาไม่แพงสำหรับการสร้างเนื้อหาที่สามารถประหยัดเงินได้เมื่อเทียบกับการจ้างนักเขียนมืออาชีพหรือจ่ายค่าซอฟต์แวร์ราคาแพง (เมื่อเทียบกับ Grammarly ด้านบน อันนี้ถูกกว่ามากๆ เลยนะครับ)
โดยสรุป Quillbot เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้เขียนเนื้อหาที่สามารถช่วยให้นักเขียนสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มผลผลิต ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียนที่ช่ำชองหรือเพิ่งเริ่มต้น Quillbot สามารถช่วยคุณยกระดับงานเขียนของคุณไปอีกขั้น
รีวิว Quillbot โปรแกรมช่วย Paraphrase และเช็กแกรมม่า ใช้ฟรี!
บทสรุป
โปรแกรมสำหรับนักเขียนออนไลน์ที่เราได้แนะนำไปข้างต้น ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการสร้างงานเขียน หรือแม้แต่การสื่อสารและจัดลำดับการทำงานให้ดีที่สุด ซึ่งหากคุณได้อ่านรายละเอียดและสนใจในการใช้งาน ก็สามารถดาวน์โหลดหรือเข้าใช้ได้ทันที ผ่านทางลิงก์ที่เราได้แนบไว้ให้ในแต่ละรายละเอียดของโปรแกรมได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รวม 5 โปรแกรมใช้แทน Gmail ฟรี!
- 10 โปรแกรมใช้แทน Trello ฟรี มีอะไรบ้างมาดูกัน
- 10 แอปที่ควรมีในไอแพด iPad Apps แนะนำสำหรับมือใหม่
- 20 วิธีหารายได้เสริมกับ WordPress มาหาเงินออนไลน์กันเถอะ
- 11 ไอเดียธุรกิจ Canva สร้างรายได้ง่าย ๆ ด้วยมือถือ
Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา