33 ปลั๊กอิน WooCommerce เปิดร้านค้าออนไลน์ในไทยห้ามพลาด

goodownday

แพล็ตฟอร์มอย่าง WordPress ไม่ได้สำเร็จรูปจนมีไปครบทุกอย่างที่ต้องการ เมื่อต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์ก็จำเป็นต้องมีปลักอินมาเสริมทัพ เป็นปลั๊กอินที่จะมาช่วยสร้างทั้งหน้าข้อมูลสินค้า ระบบตะกร้าสินค้า และระบบการจ่ายเงิน เพื่อให้เป็นระบบที่สมบูรณ์รองรับการขายของได้

ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลหรือเป็นร้านค้าที่สนใจจะสร้างร้านออนไลน์เพื่อขายสินค้า และเลือกจะใช้ WordPress เป็นเครื่องมือในการสร้าง คงต้องเลือกปลั๊กอินสร้างร้านออนไลน์อย่าง WooCommerce อย่างไม่ต้องสงสัย แต่คุณอาจไม่รู้ว่า นอกเหนือจากการใช้ปลั๊กอินตัวนี้แล้ว การจะทำให้สร้างร้านค้าออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องพึ่งพาปลั๊กอินเพิ่มเติมด้วย

ปลั๊กอิน WooCommerce แบบไหนที่ต้องใช้

ก่อนอื่น คุณคงต้องถามตัวเองด้วยคำถาม 3 ข้อนี่ก่อนว่า ปลั๊กอินที่ทำงานในด้านใดบ้างที่จะมาเสริมการทำงานของ WooCommerce ในเว็บไซต์ ซึ่งก็ได้แก่

  1. เป้าหมายของร้านค้าออนไลน์คืออะไร? คำตอบอาจจะเป็น การเพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิก การพูดถึงในโซเชียลมีเดีย หรือการเพิ่มจำนวนอีเมลในการส่งจดหมายข่าว เป็นต้น
  2. สินค้าที่จะขายเป็นของจำพวกไหน? เป็นสินค้าที่จับต้องได้หรือเป็นสินค้าดิจิทัล
  3. อะไรที่คุณต้องการแต่ WooCommerce ยังขาดสิ่งนั้นไป? คำตอบก็อาจมีมากมายหลายอย่าง อย่างเช่น ต้องการระบบจองตั๋วออนไลน์ หรือระบบการจ่ายเงินที่มีความพิเศษบางอย่าง เป็นต้น

เมื่อเราได้คำตอบของคำถามทั้งหมดนี้ เราจะพอมองเห็นว่าต้องหาปลั๊กอินอะไรมาเสริมการทำงานของ WooCommerce บ้างนั่นเองครับ


ปลั๊กอิน WooCommerce ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

ในโลกนี้มีปลั๊กอินมากมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพของ WooCommerce บทความนี้จึงจะขอรวบรวมสุดยอดปลั๊กอินเหล่านั้นให้เลือกใช้กัน

1. Yoast WooCommerce SEO

Yoast WooCommerce SEO ปลั๊กอิน woocommerce
Yoast WooCommerce SEO

ไม่ว่าจะเป็น WooCommerce หรือ Yoast SEO ต่างก็เป็นปลั๊กยอดนิยมของผู้ใช้ WordPress ทั้งสิ้น และเมื่อนำมันมาใช้ร่วมกันกลายเป็น Yoast WooCommerce SEO จะเป็นการปลดล็อคเครื่องมือและคุณสมบัติพิเศษที่ใช้สำหรับร้านค้าออนไลน์ของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็น การวิเคราะห์ด้าน SEO เกี่ยวกับหน้าสินค้า, Breadcrumb สำหรับนำทางในร้านค้า และยังสร้าง rich snippets ที่จะติดอยู่ในผลการค้นหาให้กับคุณด้วย

ราคา: $79/ปี


2. Broken Link Checker

ปลั๊กอินตัวนี้จะค่อยตรวจเช็คและมอนิเตอร์ลิงก์ภายในและลิงก์ที่เชื่อมไปยังเว็บภายนอกว่ามีลิงก์ไหนบ้างที่เป็นลิงก์เสีย บอกได้เลยว่า Broken Link Checker จะช่วยปรับปรุงให้ SEO ภายในเว็บของคุณดีขึ้นแน่นอนครับ

ราคา: ฟรี


3. WP Rocket 

ยิ่งเว็บโหลดเร็วเท่าไรก็ยิ่งทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมรู้สึกอยากเป็นลูกค้าของคุณมากเท่านั้น การโหลดที่เร็วขึ้นไม่เพียงจะช่วยทำให้ประสบการณ์ในการใช้งานดีขึ้น หากยังอาจส่งผลต่อยอดขายในทางอ้อมอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น จึงควรตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าระยะเวลาในการโหลดแต่ละหน้าควรอยู่ในช่วง 0-5 วินาที

หนทางที่จะทำเช่นนั้นได้ก็คือเลือกใช้โฮสติ้งที่แรง ติดตั้งปลั๊กอินควบคุมแคช ปรับไฟล์รูปภาพให้พอเหมาะ รวมถึงการใช้ CDN ด้วยครับ ตัวอย่างปลั๊กอินจำพวกนี้ก็ได้แก่ WP Rocket ครับ

ด้วยตัวมันเองมีฟังก์ชันมากมายหลายอย่าง ทั้งช่วยลบ CSS และจาวาสคริปต์ที่ไม่ใช้ออกไป, ปรับปรุงฐานข้อมูล, ดูแลเรื่อง Lazy Load ให้กับไฟล์มีเดียต่างๆ, ดูแลระบบแคชชิ่ง, ลดขนาดของโค้ดต่างๆ ให้เล็กลง ทุกคนที่ใช้แล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเว็บของตนโหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ราคา: $59/ปี/เว็บไซต์


4. Lazy Load by WP Rocket

นี่ก็เป็นปลั๊กอินฟรีที่ช่วยให้เว็บของคุณโหลดไฟล์มีเดียอย่างรูปภาพเร็วขึ้น ทำให้ระยะเวลาในการโหลดแต่ละหน้าลดลง ปลั๊กอินนี้เป็นของ WP Rocket ครับ

ราคา: ฟรี


5. Imagify

Imagify ปลั๊กอิน woocommerce
Imagify

ประเด็นเรื่องขนาดไฟล์รูปภาพนั้น บางคนอาจจะคิดว่าไม่สำคัญ แต่ที่จริงมันมีผลอย่างมากต่อคุณภาพโดยรวมของเว็บไซต์ ภาพที่ถูกปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลงแต่ยังได้คุณภาพใกล้เคียงเดิมจะทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น สร้างประสบการณ์ต่อผู้ใช้ที่ดีมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย Imagify ถือเป็นแถวหน้าของปลั๊กอินด้านนี้ เพียงแค่คุณติดตั้งและตั้งค่าให้มัน Imagify ก็จะดูแลงานส่วนที่เหลือให้กับคุณเอง

ราคา: ฟรี (20 MB/ต่อเดือน), $4.99/เดือน (สำหรับข้อมูล 450 MB), $9.99/เดือน (ไม่จำกัด)


6. SEO Backlink Monitor

นี่ก็อีกตัว ปลั๊กอินฟรีบน WordPress ที่จะช่วยติดตามและวิเคราะห์การสร้างลิงก์เชื่อมโยงให้คุณได้ เพียงเพิ่มลิงก์ของคุณเข้าไป SEO Backlink Monitor มันจะตรวจสอบว่าเป็นแบบ Do Follow หรือ No Follow 

ราคา: ฟรี


7. Elementor

Elementor
Elementor ปลั๊กอิน woocommerce

ปลั๊กอินประเภท page editor เวอร์ชันพรีเมียมของมันจะมีเครื่องมือสร้างเว็บร้านค้าที่สมบูรณ์แบบตามที่ต้องการด้วยการคลิกไม่กี่ครั้ง Elementor มีโมดูล WooCommerce ให้เลือกใช้มากกว่า 30 โมดูล, สร้างเทมเพลตของสินค้า หน้าร้านค้า และหน้าเช็คเอาต์ได้, สร้างป็อปอัปรับค่าอีเมลของลูกค้า, มีเทมเพลตพร้อมใช้ที่สร้างได้ในเพียงไม่กี่คลิก

ราคา: เริ่มต้นที่ $49/ปี


8. RocketCDN

ถ้าต้องการจะทำให้เว็บของคุณโหลดเร็วขึ้น อีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้งาน CDN (Content Delivery Network) ที่จะช่วยเซฟค่าแบนด์วิธไปได้เยอะ เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะถ้าเว็บไซต์ของคุณต้องการคนเข้าเยี่ยมชมจากทั่วโลก และปลั๊กอินอย่าง RockeyCDN ก็จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้แหละครับโดยที่คุณไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคอะไรเลย 

ราคา: $89.99/ปี


9. Advanced WooCommerce by the Page Builder Framework

Page Builder Framework เป็นหนึ่งเฟรมเวิร์กที่เขาว่าทำให้ธีมมันเบาอย่างมาก ทั้งยังทำงานได้อย่างประสานกลมกลืนกับ WooCommerce

Advanced WooCommerce
Advanced WooCommerce

สำหรับ Advanced WooCommerce เวอร์ชันพรีเมียมจะทำอะไรเพิ่มขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งให้เลื่อนลงได้ไม่สิ้นสุด (infinite scrolling), สร้างตะกร้าสินค้าแบบป็อปอัป, ขั้นตอนการชำระเงินที่ไร้สิ่งรบกวน และอีกมาก

ราคา: ตัวธีมนั้นฟรี แต่ตัวเสริมพรีเมียมนั้นมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ $58/ปี


10. OptinMonster

OptinMonster
OptinMonster

มาถึงปลั๊กอินเพื่อ WooCommerce ด้านการตลาดกันบ้าง ถ้าคุณต้องการเพิ่มรายชื่ออีเมลเพื่อเพิ่มพูนยอดขายให้มากขึ้น นี่ก็คงเป็นปลั๊กอินที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณที่สุดแล้วล่ะ ด้วยชุดเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่ทรงพลังที่สุดด้วยคุณสมบัติที่พร้อมพรั่ง OptinMonster มีทั้งตัวสร้างฟอร์มบอกรับอีเมลที่มาพร้อมกับฟังก์ชันกระตุ้นต่อมลูกค้าต่างๆ, มีระบบวิเคราะห์ A/B แล้วก็ยังมีระบบส่งแทรฟิกไปยังหน้าสำคัญในเว็บไซต์ด้วย

ราคา: เริ่มต้นที่ $14/เดือน


11. MailChimp for WooCommerce

หลายคนรู้จัก MailChimp ดี ครั้งนี้มันจะรวมร่างกับ WooCommerce ทำให้ลูกค้าและข้อมูลของเขาทำงานผสานรวมกันด้วยดี คุณจะสามารถส่งเมลแจ้งแคมเปญตรงกลุ่มเป้าหมาย ติดตามถามไถ่ลูกค้าหลังการขาย รวมทั้งรื้อฟื้นการสั่งซื้อที่ไม่สำเร็จให้คุณได้ด้วย

ราคา: ฟรี


12. Divi

มันคือปลั๊กอินประเภท WooCommerce builder ที่ดีที่สุด Divi จะเปิดให้เราแก้ไข header/footer, สร้างหน้าสินค้า หน้าร้าน และหน้าเช็คเอาต์ได้ตามต้องการ

ราคา: เริ่มต้นที่ $89/ปี


13. Asset Cleanup

Asset Cleanup
Asset Cleanup

ปลั๊กอินของฟรีอย่าง Asset Cleanup นี่แหละที่จะช่วยคุณขจัดและทำความสะอาดให้เว็บของคุณคลีนอย่างสุดๆ เพราะมันจะช่วยสแกนทุกหน้า ตรวจหาทุกสิ่งที่จะถูกโหลดขึ้นมาใช้ เราเพียงต้องเลือกว่า CSS/JS ตัวไหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้บ้าง มันจะทำให้เว็บของคุณเบาขึ้นเยอะเลยทีเดียว แถมยังเป็นปลั๊กอินที่ทำงานได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับ WP Rocket ด้วยนะครับ

ราคา: ฟรี


14. HubSpot for WooCommerce

กำลังมองหาส่วนต่อขยายที่จะรวมร่าง WooCommerce เข้ากับระบบ CRM อยู่หรือไม่ ด้วย HubSpot คุณจะสามารถซิงค์ข้อมูลของร้านค้า WooCommerce ทั้งของเก่าและของใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อบริหารจัดการลูกค้าและคำสั่งซื้อของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น 

ราคา: ฟรี 


15. RafflePress

RafflePress
RafflePress

ปลั๊กอินที่ทำงานด้านของแจก (giveaways) ได้ยอดเยี่ยมตัวหนึ่งในตลาด RafflePress ทำให้คุณสามารถสร้างเกมคอนเทสต์ออนไลน์และแจกของรางวัลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทั้งยังเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องมือการตลาดผ่านอีเมลอื่นๆ ทำให้รายชื่ออีเมลของลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่งครับ

ราคา: ฟรี, เริ่มต้นที่ $39/ปี


16. Query Monitor

เป็นอีกหนึ่งปลั๊กอินเพื่อ WooCommerce ฟรีแนวคอนโทรลพาเนลที่สุดยอดอีกตัวหนึ่งเลยครับ Query Monitor มีความสามารถในการแยกแยะว่าธีมหรือปลั๊กอินไหนมีประสิทธิภาพต่ำ ทำให้คุณสามารถจะระบุต้นตอของปัญหาและจัดการได้ทันท่วงที

ราคา: ฟรี


17. WooCommerce Subscriptions

WooCommerce Subscriptions
WooCommerce Subscriptions

สำหรับเว็บอีคอมเมิร์ซบางประเภท หรือสินค้าบางอย่าง บริการบางประเภท อาจต้องการให้ลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกรายเดือนหรือแม้กระทั่งซอฟต์แวร์ที่จัดเก็บเป็นรายปี ปลั๊กอินอย่าง WooCommerce Subscriptions ตอบโจทย์กับแนวทางดังกล่าว นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มค่าธรรมเนียมการสมัคร ใส่ข้อเสนอทดลองใช้งานฟรี และตั้งค่าวันสิ้นสุดสมาชิกได้อีกต่างหาก 

ราคา: $199/ปี 


18. WooCommerce Multilingual

WooCommerce Multilingual
WooCommerce Multilingual

เมื่อใดที่คุณมีความคิดอยากจะขยายฐานลูกค้าออกไปยังต่างประเทศ ปลั๊กอินอย่าง WCML จะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน มันคือส่วนหนึ่งของปลั๊กอินยอดนิยมอย่าง WPML นั่นแหละ มันจะช่วยคุณแปลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ หน้าร้านและในอีเมล คุณอาจยังคงภาษาเดิมไว้ในระหว่างขั้นตอนการชำระเงิน ตั้งค่าอัตราค่าจัดส่งตามแต่ละสกุลเงิน หรือแม้แต่การติดตามสินค้าคงคลังโดยไม่แบ่งแยกสินค้าตามภาษาก็ทำได้เช่นกัน

ราคา: ฟรี แต่จำเป็นต้องมีไลเซนส์ WPML เสียก่อน


19. WooCommerce Social Login

ปลั๊กอินเพื่อ WooCommerce อย่าง Social Login จะช่วยลดแรงเสียดทานเมื่อถึงขั้นตอนชำระเงินหรือสร้างบัญชีผู้ใช้ เพราะลูกค้าที่มีไปรไฟล์บนโลกโซเขียล พวกเขาจะล็อกอินได้ด้วยเพียงคลิกเดียวเท่านั้น

ราคา: $79/ปี


20. WooCommerce Google Analytics

WooCommerce Google Analytics
WooCommerce Google Analytics

การเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้การเก็บข้อมูลจาก Google Analytics มาวิเคราะห์ลูกค้าใน WooCommerce เป็นเรื่องที่ไม่ควรหลีกเลี่ยง WooCommerce Goole Analytics จะทำให้คุณรู้ว่าช่องทางใดที่สร้างทราฟิกได้สูงสุด เพื่อที่จะโฟกัสทำการตลาดได้ถูกจุด

ราคา: ฟรี, แพ็กเกจโปร เริ่มต้นที่ $79/ปี  


21. Google Listing and Ads

Google Listing and Ads
Google Listing and Ads

อีกหนึ่งปลั๊กอินเพื่อ WooCommerce ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย Google Listing and Ads ถูกสร้างขึ้นมาโดย Google และ WooCommerce ด้วยจุดประสงค์ที่จะเข้าถึงลูกค้าผ่านโปรดักต์และโฆษณาฟรีของกูเกิล นอกจากนี้ คุณยังสามารเพิ่มคนเข้าร้านค้าออนไลน์และเชื่อมต่อกับ Google Merchant Center และแคมเปญ Smart Shopping ได้อีกด้วย

ราคา: ฟรี


22. WooCommerce Products Review Pro

ด้วยปลั๊กอินนี้ ลูกค้าจะสามารถอัปโหลดรูปและคลิปวิดีโอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรีวิว แถมคุณยังสามารถจะจัดเรียงรีวิตามการให้คะแนนจากดีไปหาแย่ได้อีกด้วย ไม่เท่านั้น WooCommerce Products Review Pro ก็ยังสามารถตั้งค่าให้มีออปชั่นเพิ่มเติมได้อีก

ราคา: พรีเมียม $79/ปี


23. All in One SEO

All in One SEO
All in One SEO

อีกหนึ่งปลั๊กอินที่ช่วยให้คุณตั้งค่า WordPress SEO ได้แบบง่ายดาย All in One SEO มีระบบติดตั้งแบบรวดเร็วที่ช่วยปรับ SEO ให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ ทั้งยังมีคุณสมบัติขั้นสูงอย่าง XML sitemap, ปรับตั้งการแสดงผลใน Search Engines, การตั้งค่า title, description, keyword,  ตั้งค่าโซเชียลมีเดียต่างๆ และอีกมากมาย ถ้าใช้เวอร์ชันโปรก็จะสามารถตั้งค่าสำหรับ WooCommerce ได้ด้วยครับ

ราคา: ฟรี, เริ่มต้นที่ $49.50/ปี


24. WooCommerce Booking

มาถึงปลั๊กอินสำหรับบุ๊กกิ้งออนไลน์กันบ้าง WooCommerce Booking จะช่วยให้ลูกค้าสามารถนัดหมายและสำรองที่นั่งได้อย่างสะดวก มันสามารถจะใช้ได้กับทั้งธุรกิจพื้นที่จัดกิจกรรม, พื้นที่งานปาร์ตี้, ร้านเสริมสวยและสปา ยิม รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆ ด้วยนะ

ราคา: $249/ปี


25. Checkout Field Editor

Checkout Field Editor
Checkout Field Editor

ปลั๊กอินปรับแต่งฟอร์มชำระเงินอย่าง Checkout Field Editor จะเปิดให้คุณเข้าไปเพิ่มและแก้ไขช่องต่างๆ ในหน้าเช็กเอาต์ของ WooCommerce เพราะฉะนั้น จะเลือกเพิ่มหรือลบส่วนไหนออกไปก็สามารถทำได้ตามต้องการเลย 

ราคา: $4.09/เดือน, $49/ปี


26. WooCommerce Shipping

มาถึงปลั๊กอินฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอีกหนึ่งตัวแล้วล่ะ คราวนี้เป็น WooCommerce Shipping ที่จะช่วยให้คุณปรินต์ฉลากจัดส่งของ USPS และ DHLS ได้โดยตรงจากหน้าแดชบอร์ดของคุณ 

ราคา: ฟรี


27. Smart Coupons

Smart Coupons
Smart Coupons

แม้ว่า WooCommerce เองก็มีระบบคูปองให้ในตัวอยู่ก่อนแล้ว แต่ถ้าอยากได้คุณสมบัติขั้นสูงล่ะก็ ปลั๊กอินอย่าง Smart Coupons ช่วยคุณได้ คุณจะสามารถสร้างรหัสส่วนลด บัตรกำนัล และเครดิตร้านค้าได้จากปลั๊กอินตัวนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้มากขึ้น เพิ่มปริมาณการกลับมาสั่งซื้ออีกครั้ง และยังสร้างความภักดีที่ลูกค้ามีต่อร้านของคุณอีกด้วย

ราคา: $99/ปี


28. Table Rate Shipping for WooCommerce

นี่คือปลั๊กอินทำตารางเรทสำหรับ WooCommerce ที่ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มข้อมูลอัตราค่าโน่นนี่ได้ตามสะดวก ตัวอย่างเช่น คุณจะตั้งให้เงื่อนไขมันแตกต่างกันไปตามพื้นที่ส่ง น้ำหนัก หรืออ็อปชั่นอื่นก็ย่อมได้ หรือจะสร้างเงื่อนไขที่อิงกับวันหนึ่งในสัปดาห์เป็นพิเศษ Table Rate Shipping for WooCommerce ก็ทำให้ได้เช่นกัน 

ราคา: $25


29. Yith WooCommerce Wishlist

Yith WooCommerce Wishlist
Yith WooCommerce Wishlist

ถ้าคุณคิดที่จะใส่ฟังก์ชั่น Wishlist ลงไปในร้านค้าออนไลน์ นี่คือปลั้กอินที่ควรค่าที่สุด เพราะ Yith WooCommerce Wishlist จะช่วยให้คุณเพิ่มไอคอน Wishlist ลงไปในหน้าข้อมูลสินค้า เปิดโอกาสให้พวกเขากดเพิ่มสินค้านั้นไว้ในรายการส่วนตัว แล้วก็ยังทำให้เจ้าของร้านได้ติดตามสร้างการขายด้วยการส่งเมลสอบถามได้อีกด้วยครับ

ราคา: €94.99/ปี


30. Cartflows

ปลั๊กอินตัวนี้จะเป็นเครื่องสร้างช่องทางการขายที่ทรงพลังทั้งยังเป็นมิตรกับผู้ใช้ ออกแบบมาสร้างโอกาสในการขายและเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้เป็นลูกค้า คุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของ Cartflows ก็คือ เพิ่มการขายได้เพียงในคลิกเดียว เพิ่มทั้งปริมาณการสั่งซื้อ มีตัวจัดการการสั่งซื้อที่ไม่สำเร็จ แล้วก็ยังมีเทมเพลตที่สร้างไว้ล่วงหน้าด้วย

ราคา: เริ่มต้นที่ $239/ปี


31. Designil PDPA

ทำเว็บไซต์ WORDPRESS ของคุณให้รองรับ PDPA ใน 3 นาที กับปลั๊กอินสำหรับจัดการ Cookies บนหน้าเว็บไซต์ พร้อมอนุญาตให้ปรับแต่งธีมให้เข้ากับเว็บไซต์ได้สวยงามแบบไม่จำกัดรูปแบบ

ราคา: เริ่มต้นที่ 1,290 บาท/ปี

Designil PDPA


32. Thai WooCommerce PromptPay QR Code

ปลั๊กอินช่วยให้ลูกค้าของคุณชำระเงินผ่าน PromptPay ได้ทันที พร้อมระบบ QR Code บนเว็บไซต์ออนไลน์ของคุณ ทำให้การชำระเงินง่ายขึ้นแบบสิบเท่า

ราคา: เริ่มต้นที่ 649 บาท/ปี

WooCommerce PromptPay QR Code


33. WooCommerce Thai Address

ปลั๊กอิน Autocomplete ที่อยู่ลูกค้าในประเทศไทยให้อัตโนมัติ ที่มาพร้อมกับ ตำบล อำเภอ จังหวัด รหัสไปรษณีย์ของประเทศไทย ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลามานั่งพิมพ์เองอีกต่อไป ใช้งานง่ายมากๆ

ราคา: เริ่มต้นที่ 649 บาท/ปี

WooCommerce Thai Address


อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงจะได้ไอเดียในการปรับเพิ่มฟังก์ชันในร้านค้าออนไลน์ของคุณกันไปไม่มากก็น้อยแล้วใช่มั้ยครับ เมื่อพบว่า ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่มันยังขาดหายไป ที่ทำให้สร้างยอดขายได้ไม่มากพอ ยังดึงดูดลูกค้าไม่ให้กลับมาซื้อซ้ำได้มากพอ ก็คงถึงเวลาต้องหาปลั๊กอินมาเสริมกันแล้วล่ะ หลังจากนี้ ขอให้ร้านค้าของสร้างยอดขายปังๆ กันทุกคนเลยนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง:

Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา