5 วิธีสร้างแรงบันดาลใจในภาวะวิกฤตสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่

Radar

เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ ช่วงนี้เรื่องโรคระบาดเริ่มคลี่คลายลง หลายๆ ท่านก็คงจะเริ่มออกกลับไปทำงานนอกบ้านกันมากขึ้น แต่อาจจะมีเพื่อนๆ บางคนที่รู้สึกว่าตัวเองหยุดไปนานจนรู้สึกเบื่อ และรู้สึกหมดไฟไม่อยากที่จะเริ่มต้นในการทำอะไรเลย

ผู้ประกอบการหลายคนในตอนที่พวกเขาเริ่มที่จะก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง พวกเขาก็มีความรู้สึกเดียวกับเพื่อนๆ เหมือนกันครับ เป็นความรู้สึกที่เหมือนว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในเขาวงกต ไม่รู้เส้นทางและไม่รู้จุดจบ เปรียบเสมือนการเดินเรือโดยไร้แผนที่ซึ่งไม่รู้จุดหมายที่ตัวเองกำลังจะไป ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงต่อดี หรือทำธุรกิจแล้วดันมาเจอภาวะวิกฤตอีกสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่

สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ
เมื่อเราเริ่มมีความคิดที่ว่า ”เราควรจะทำยังไงต่อดี”

แต่วันนี้แอดจะขอมาทำหน้าที่เป็นเข็มทิศนำทางให้เพื่อนๆ ที่กำลังทำธุรกิจและหลงทางอยู่ ให้เพื่อนๆ ที่กำลังรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรแล้วได้สร้างแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา จะมาขอเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่หลายคนอาจจะประสบปัญหาอยู่ โดยใช้ความสามารถที่ทุกคนได้มีอยู่ในตัวเองนั่น ”ปฏิภาณไหวพริบ” นั่นเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เพื่อนๆ จัดการกับปัญหาและสามารถตอบกับตัวเองได้ว่า ตัวเราเองควรจะทำยังไงต่อดี

ทักษะการแก้ปัญหาด้วยปฏิภาณไหวพริบ

หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำนี้อยู่แล้ว และก็คงมีความจำกัดความที่แตกต่างกันไปในแบบของตัวเอง แต่วันนี้แอดจะขอมาแลกเปลี่ยนความจำกัดความของคำว่า ปฏิภาณไหวพริบ ในความคิดของแอดแล้วกันนะครับ

สำหรับคำว่า ปฏิภาณไหวพริบ ในความคิดของแอดนั่นคือ การที่เราสามารถจัดการกับวิธีการคิดของเราอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระเบียบ และนำสิ่งเหล่านั้นออกมาใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยที่เราไม่ทันได้รู้ตัวมาก่อนตามแต่ละสถานการณ์ รวมถึงเราสามารถที่จะจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกในการที่จะโต้ตอบกลับไปโดยการกระทำหรือคำพูดที่ไม่รุนแรงและไม่ทำให้เหตุการณ์หรือสถานการณ์นั้นแย่ลงไปกว่าเดิม

เพื่อนๆ ลองสังเกตนะครับว่าคนที่มีความเฉลียวฉลาดเนี่ยมักจจะมีวิธีในการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถพูดโต้ตอบโดยใช้เหตุผลได้อย่างคล่องแคล่วและเหมาะสม ซึ่งแอดคิดว่ามันไม่ใช่พรสวรรค์หรอกครับ มันเป็นประสบการณ์มากกว่า เนื่องจากคนเหล่านั้นในอดีตอาจจะพบเจอเหตุการณ์ที่ร้านแรงมาทำให้พวกเขาจดจำและมีความคิดที่จะไม่ทำให้เหตุการณ์ที่เลวร้ายนั้นเกิดขึ้นกับพวกเขาอีก

สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจท่ามกลางวิกฤต

เพื่อนๆ อ่านมาถึงตรงนี้คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่า ปฏิภาณไหวพริบเนี่ยมันจะมีส่วนเข้ามาช่วยในการทำให้เรารู้สึกอยากที่จะทำอะไรขึ้นมากันหรอ? เดี๋ยวแอดจะลองยกตัวอย่างผลลัพธ์ของงานวิจัยมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ

1. การพูดกับตัวเองในเชิงบวกช่วยได้

การที่เราคอยที่จะพูดกับตัวเองในเชิงลบว่า “เราทำไม่ได้แน่เลย” หรือ “เราทำไม่ได้แน่ๆ” มันเหมือนเป็นการปิดประตูแพ้ให้กับตัวเองทันทีโดยที่เรายังไม่ทันที่จะเริ่มลงมือทำอะไรเลย ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะทำนั่นคือ การพูดให้กำลังใจกับตัวเองในเชิงบวกอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้ตัวของเรามีความทะเยอทะยานเกิดขึ้น เพื่อนๆ เคยสังเกตมั๊ยครับว่า ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน พวกเขามีความทะเยอทะยานสูงมาก พวกเขาคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่าพวกเขาจะต้องทำสำเร็จและพวกเขาจะไม่ยอมแพ้ ที่พวกเขาคิดแบบนี้ได้เพราะพวกเขามีวิธีการจัดการกับความคิดที่ดี สามารถจัดการกับความคิดในเชิงลบของตัวเองให้ออกไปได้

2. การแก้ปัญหาแบบเป็นขั้นเป็นตอน

เป็นการที่เรามองออกถึงภาพรวมของปัญหาทั้งหมด และสามารถที่จะเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้อย่างหลายทาง หลังจากนั้นสามารถที่จะเลือกวิธีการในการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดออกมา โดยที่วิธีที่เราเลือกมานั้น เราก็ยังสามารถที่จะจัดลำดับในการแก้ปัญหาแบบเป็นขั้นเป็นตอน ว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาตรงไหนก่อนเป็นอันดับแรก และปัญหาไหนที่เราจะแก้ไขในลำดับสุดท้าย

วางแผนการทำงาน สร้างแรงบันดาลใจ
สร้างแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจของคุณ

3. การตั้งขอบเขตในเป้าหมายควมสำเร็จ

การที่เราดำเนินธุรกิจของเราไปรื่อยๆ และอาจจะพบเจอกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไป เพราะตอนนั้นเราอาจจะยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่า ความสำเร็จที่เราพอใจคือเท่าไหร่ และนานแค่ไหน ดังนั้นควรที่จะตั้งเป้าหมายในระยะสั้นว่า ในระยะเวลาเท่านี้หรือความสำเร็จเท่านี้เราต้องทำให้สำเร็จก่อน จากนั้นเราจึงค่อยขยับเป้าหมายของความสำเร็จของเราออกไปก็ได้ จะทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จแบบเป็นลำดับขั้น ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองยังมีเป้าหมายไม่ใช่ทำไปเรื่อยๆ แบบไร้เป้าหมาย

4. เชื่อมั่นในตัวเอง

การที่เราเชื่อว่าตัวเองมีพลังและมีความสามารถที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้ประสบความสำเร็จได้ อย่าคิดน้อยใจในโชคชะตาว่า เราเกิดมาไม่ได้มีเหมือนคนอื่น จงคิดว่าถึงไม่มีเหมือนคนอื่นแต่เราก็สามารถที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่ดีกว่าคนอื่นได้ เพราะคนเรามีความสามารถและความถนัดที่แตก่างกันออกไป

และต่อมาปฏิภาณไหวพริบได้ถูกพัฒนาให้มนุษย์นอกจากจะมีความฉลาดในการจัดการความคิดให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับตนเองเพียงอย่างเดียวแล้ว ยังสามารถให้มนุษย์เราสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย ซึ่งทักษะนี้จะทำให้เราสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

จากบทสัมภาษณ์ของผู้ประกอบการหลายๆ คนที่ได้พูดไว้ นั่นคือทุกคนพบเจอกับปัญหาเดียวกันนั่นคือ เราจะจัดการกับความคิดในการแก้ไขปัญหาให้กับตัวเองและผู้อื่นได้อย่างไร เมื่อตัวเราและผู้อื่นประสบกับปัญหาเฉพาะหน้าพร้อมๆ กัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ต้องอาศัยประสบการณ์ค่อนข่างสูง

5 วิธีสร้างแรงบันดาลใจ แก้ไขปัญหาฝ่าวิกฤต

1. ลองหยุดและทบทวนงานกับเป้าหมายที่คุณกำลังทำอยู่

ผู้ประกอบการหลายคนมักจะพบกับปัญหาทีแก้ไขยาก ซึ่งมักไม่ได้อยู่ในช่วงของการเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่เป็นช่วงที่พวกเขาได้ดำเนินธุรกิจไปได้ถึงช่วงเวลาหนึ่งแล้วต่างหาก เมื่อดำเนินธุรกิจไปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พวกเขามักจะพบกับข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่พวกเขามีวิธีจัดการนั่นคือ การหยุดพักและลองทบทวนสิ่งต่างๆ ดูใหม่ว่า ที่เรากำลังทำอยู่นั้นมันถูกต้องตามแผนที่เราได้วางไว้ตั้งแต่แรกรึเปล่า และตอนนี้เป้าหมายของเรากับเป้าหมายในตอนแรกยังชัดเจนและเหมือนเดิมอยู่ไหม ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เราคัดเลือกปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และสามารถใช้วิธีการจัดการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนนั่นเอง

6A0020CD 9E6D 4ACC BB9E 50474A35C045

แอดจะขอลองยกตัวอย่างสถานการณ์ของคุณ Adam เจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง กันนะครับ

“ในช่วงแรก ธุรกิจของเราวางแผนกันอย่างชัดเจนมากว่าเราจะทำอะไรกันบ้างในช่วงสองถึงสามปีแรก พวกเราได้วางแผนการขาย สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา แถมยังได้รับโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย แต่ด้วยธุรกิจของพวกเราในตอนนั้นยังมีขนาดเล็กอยู่ ทำให้เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งพวกเราเหมือนเจอกำแพงขนาดใหญ่มาปิดกั้นเอาไว้นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ของเรายอดขายตกต่ำจนถึงไม่มียอดขาย สินค้าล้นตลาด ซึ่งสถานการณ์ในตอนนั้นเกือบที่จะบีบให้พวกเราต้องลดราคาสินค้าเพื่อทำให้กลับมามียอดขายอีกหนึ่งครั้ง

แต่เราก็พบว่าการหยุดทบทวนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นทางออกที่ดีที่สุด เราสามารถแก้ปัญหาโดยการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานของยอดขายในแต่ละช่วงเวลาใหม่ เพื่อให้เราทราบว่าลูกค้าแต่ละคนต้องการอะไรในช่วงเวลาไหน เพื่อจะได้ผลิตสินค้าออกมาได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้ เราใช้วิธีนี้ในการกำหนดเป้าหมายและวางแผนใหม่ทุกครั้ง ครั้งละ 6 เดือน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือจากที่มีสินค้าล้นสต๊อคมากเกินไป จนตอนนี้เราผลิตสินค้าออกมาแทบไม่ทันเลย ยอดขายเราเติมโตขึ้นเป็นสามเท่าจากครั้งที่แล้ว นอกจากนั้นยังทำให้เราสามารถสนุกไปกับธุรกิจที่กำลังทำกันอยู่ครับ”

คุณอดัมกล่าวว่า การชะลอธุรกิจลงและลองเขียนแผนธุรกิจใหม่เมื่อพบเจอกับปัญหา จะทำให้เราเห็นภาพรวมของปัญหาและช่วยให้ตัวเขาเองได้รวบรวมความคิดในการมองหนทางข้างหน้าที่ธุรกิจของเขาจะดำเนินต่อไป

การเขียนแผนธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เขียนปัญหาทุกอย่างที่เราได้พบเจอลงไปในกระดาษ ทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาและสามารถที่จะจัดลำดับการแก้ไขปัญหาที่มีความสำคัญก่อนเป็นอันดับแรกได้

2. ใช้ Google ให้เป็นประโยชน์

ทุกวันนี้โลกของอินเทอร์เน็ตเข้าถึงผู้คนมากกว่า 7 พันล้านคน ดังนั้นก็จะมีความคิดมากมายกว่า 7 พันล้านความคิดนั่นเอง แต่ Google จะช่วยกรองความคิดเหล่านั้นให้เราตามที่เราต้องการได้ เพียงแค่เราพิมพ์สิ่งที่เราต้องการอยากรู้ลงไป ในวันนึงแอดอยากให้เพื่อนๆ ลองค้นหาความรู้รอบตัวซัก 1 เรื่อง เพื่อในอนาคตเมื่อเพื่อนๆ พบเจอกับปัญหาที่ต้องใช้เรื่องราวเหล่านี้ในการแก้ไขปัญหา เพื่อนๆ จะได้สามารถนำสิ่งเหล่านี้ที่เพื่อนๆ ได้เคยเรียนรู้เอาออกมาใช้ได้อย่างทันท่วงทีได้

0FC9DCD3 8F41 4284 BA81 319FDEFE7DF8

นี่เป็นเครื่องมือของปฏิภาณไหวพริบอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ เพราะใน Google ได้รวบรวมปฏิภาณไหวพริบจากผู้คนต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก เพื่อแบ่งปันเป็นแนวทางที่ดีที่สุดให้กับตัวของเราอีกทางหนึ่ง เพราะว่าบางคนอาจจะพบเจอกับปัญหาที่เรากำลังพบอยู่มาก่อน เขาจึงได้นำเรื่องราวและวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นมาแบ่งปันลงใน Google นั่นเอง

วันนี้แอดมีเคล็ดลับในการเสิร์ช Google ให้ได้ประสิทธิภาพมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ

  • เพิ่มเครื่องหมาย ” ” รอบข้อความที่เราต้องการค้นหา จะช่วยทำให้ผลลัพธ์ของเราจำกัดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับที่เราค้นหาเพียงเท่านั้น ทำให้กรอบการค้นหาของแคบลงและค้นหาเจอได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มชื่อเว็บไซต์ก่อน URL เพื่อค้นหาหัวข้อได้ในเว็บไซต์เฉพาะที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็ว เช่น bbc.com เป็นต้น
  • Youtube สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านตัวหนังสือยาวๆ ก็ฟังหรือดูวิดีโอไปเลยดีกว่าครับ แอพก็เป็นคนนึงที่ชอบดูยูทูปมากกว่ามานั่งอ่านหนังสือยาวๆ เพราะมันทำให้เราได้เห็นภาพและสนุกมากว่าอ่านหนังสือครับ
  • ใช้ keyword ในการปรับปรุงการค้นหา เป็นการใช้ keyword เพื่อขยายคำค้นหาของเราให้สามารถค้นหาเจอได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย เช่น ตอนแรกเป็นคำว่า โฆษณา facebook แต่เราอาจจะเพิ่มเป็น โฆษณา facebook กรณีศึกษา beauty brand เป็นต้น

3. ค้นหาและสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง

การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นถึงแม้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นข้อเสีย แต่รู้มั๊ยครับว่ามันก็มีข้อดีเหมือนกัน มันทำให้เรารู้ว่าคู่แข่งของเรามีวิธีการในการทำธุรกิจแบบไหน พวกเขามีเคล็ดลับหรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ต่อไปนี้จะเป็นสามวิธีที่คุณสามารถนำวิธีการของคู่แข่งมาปรับใช้ในแบบของเราได้

1. วิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดด้วย similarweb

เป็นเครื่องมือในการช่วยวิเคราะห์คู่แข่งของเรา ช่วยให้เราสามารถที่จะเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคู่แข่งที่เรากำลังสนใจและได้รับการยอมรับ เพื่อนๆ สามารถที่จะดูได้ว่าพวกเขาใช้เครื่องมืออะไรในการขับเคลื่อนธุรกิจของตัวพวกเขาเอง มีเครื่องมืออื่นอีกไหมที่พวกเขาใช้ในการแก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางให้เราสามารถนำมาปรับปรุงกับธุรกิจของเราได้

2. ตรวจสอบดูว่าคู่แข่งของเรากำลังแสดงโฆษณาอย่างไรด้วย Facebook Ad Library

บางคนอาจจะไม่ถนัดในการเขียนโฆษณาเพื่อโน้มน้าวใจให้กับกลุ่มเป้าหมายของเราได้ ดังนั้นจึงต้องมีเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยทำให้เราเขียนโฆษณาได้ง่ายขึ้น นั่นคือ Facebook Ad Library ซึ่งจะสามารถเข้าถึงรูปแบบของโฆษณาต่างๆ ที่คู่แข่งที่เราสนใจได้เขียนเอาไว้ แล้วเราก็นำรูปแบบนั้นมาเป็นไอเดียในการเขียนโฆษณาในรูปแบบธุรกิจของเรา จะทำให้เราสามารถทำได้ง่ายและประหยัดเวลามากขึ้นด้วย

3. ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์การตลาดผ่าน MailCharts

การตลาดผ่านอีเมลเป็นสิ่งสำคัญของตลาดอีคอมเมิชขนาดใหญ่ แต่การตั้งหัวข้อในการส่งอีเมลไปให้กับกลุ่มเป้าหมาย คงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่หลายๆ คน คงวิตกกังวลกันอยู่นะครับ แต่อีเมลสามารถตั้งค่าการส่งข้อความอัตโนมัติได้ เช่น การแจ้งเตือนแคมเปญต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ณ วันที่ต่างๆ เป็นต้น แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดของอีเมลที่จำกัดไว้ให้อยู่ในเพียงกล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น จึงต้องมีเครื่องมือที่แอดจะแนะนำให้เพื่อนๆ กำลังจะได้รู้จักขึ้นมา

MailChart จะช่วยทำให้อีเมลของเรามีประสิธิภาพมากขึ้น ทั้งรับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์และข้อมูลย้อนหลังเพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนเขียนอีเมลในฉบับต่อไปได้ สามารถที่จะแชร์และแสดงความคิดเห็นจากมุมของกลุ่มเป้าหมายของเราได้ รวมถึงสามารถค้นพบรูปแบบอีเมลของคู่แข่งเรียงตามแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพื่อเป็นแนวทางในการเขียนอีเมลให้กับธุรกิจของเราต่อไปได้นั่นเองครับ

4. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

คนที่มีปฏิภาณไหวพริบที่ดีมักจะชอบแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ซึ่งแอดขอบอกเลยนะครับว่าความคิดแบบนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นแอดมองว่าเป็นความฉลาดรูปแบบหนึ่งแทนที่จะมองว่าเป็นความอ่อนแอ

575F0281 169F 42E3 BB65 AD4DF69D80DE

ปัจจุบันเราสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างง่ายดาย สามารถสร้างกลุ่มออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างกัน หรืออาจจะมีความคิดที่คล้ายๆ กันมาแชร์เพื่อเป็นประสบการณ์ให้แก่กันและกัน และนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจของตัวเราเองได้

ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการที่เราจะเข้าถึงความช่วยเหลือจากคนอื่น เมื่อเราพบเจอกับอุปสรรคปัญหาต่างๆ

  • ใช้ประโยชน์จากฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ทุกธุรกิจจะมีฝ่ายดำเนินการที่คอยสนับสนุนและแก้ไขการบริการให้กับลูกค้า ซึ่งฝ่ายนี้จะมีความใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นทุกครั้งเราควรที่จะสอบถามถึงปัญหาหรือคำวิจารณ์ของลูกค้าจากฝ่ายนี้ เพื่อที่เราจะได้นำปัญหาเหล่านั้นมาช่วยกันแก้ปัญหาได้ตรงจุดและได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการต่อไป อย่ากลัวที่จะเข้าไปถาม เพราะธุรกิจคือการที่เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงแค่คนๆ เดียว
  • เข้าร่วมการสัมนาต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการรายอื่นที่มีประสบการณ์ และได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดต่อกันถึงปัญหาที่เราต่างได้พบเจอกันอยู่
  • จ้างผู้เชี่ยวชาญ หากใครที่กลังเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไข สามารถที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญของ Shopify ได้เลย เช่น การออกแบบร้านค้า และการออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น เพราะการที่เราไม่ถนัดและมีข้อจำกัดเรื่องของเวลา การให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาแอดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
  • ถามในกลุ่มออนไลน์ต่างๆ ทุกวันนี้เรามีการสร้างกลุ่มไลน์ กลุ่มเฟสบุ๊ค หรือกลุ่มต่างๆ ที่เราสามารถพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ อย่ากลัวที่จะพิมพ์ถามลงไปในกลุ่มนะครับ เราสงสัยในเรื่องอะไรก็ถามไปได้เลย เราอาจจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นก็เป็นได้

แอดบอกเลยนะครับว่า การรับฟังความคิดของผู้อื่นคือทรัพยากรที่ล้ำค่าที่มีประโยชน์ต่อเราเลย เพราะมันทำให้เราได้พบกับมุมมองใหม่ๆ และเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้นด้วย

5. พิจารณาที่จะปรับปรุงแผนธุรกิจของตัวเองอยู่เสมอ

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจของเราได้อยู่เสมอ พนักงานที่เราเคยจ้างอาจจะลาออก ทรัพยากรที่เราเคยมีอาจจะพังหรือสูญหายไป ปัญหาต่างๆ พร้อมเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ ดังนั้นเราจำเป็นต้องวางแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดอยู่เสมอ รู้จักปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจของเราสามารถปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ครับ

40F38949 FE9B 4150 8022 C37B37CA93FB

แอดจะขอยกตัวอย่างของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้นะครับ

  • เปลี่ยนแนวทางของธุรกิจเพื่อเพิ่มปริมาณของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ร้าน Pizza ที่ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้จำเป็นต้องการขายทางออนไลน์ เนื่องจากยุคสมัยของโลกดิจิทัลและปัญหาของโรคระบาดโควิด-19
  • เพิ่มเติมหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบของผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น PopSockets เริ่มต้นจากอุปกรณ์หูฟังสำหรับสมาร์ทโฟน และต่อมาได้เพิ่มเติมผลิตภัณฑ์แท่นวางโทรศัพท์ที่มีลูกเล่นต่างๆ ที่น่าสนใจ
  • ใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ทันต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น Old World Kitchen เปลี่ยนจากการขายทางหน้าร้าน เป็นการขายออนไลน์บนเว็บไซต์ของตัวเอง

ลองคิดถึงธุรกิจที่เพื่อนๆ ชื่นชอบ ว่าอย่างน้อยหนึ่งครั้งพวกเขาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อปรับตัวให้กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเมื่อปรับตัวไม่ได้ก็ต้องดำเนินการปิดกิจการไปในที่สุด

แต่การที่เพื่อนๆ จะเปลี่ยนแผนธุรกิจของตนเองไม่ใช่ว่าอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสี่ยงขึ้นมามาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลเชิงลึกทางด้านการตลาดมาคอยสนับสนุนเพื่อบดความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่จะเกิดขึ้น

แอดจะขอยกกรณีตัวอย่างของ Hibbert ดีไซน์เนอร์เจ้าของเว็บไซต์ร้านค้า Lovelee Designs ที่ได้พบเจอกับสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด

“ในช่วงที่โควิด-19 กำลังเริ่มแพร่ระบาด ฉันต้องชะงักธุรกิจของตัวเองลง เนื่องจากปกติฉันในฐานะเป็นนักออกแบบที่กำหนดเองตามรูปแบบของงานและโอกาสพิเศษต่างๆ แต่เมื่อมีโรคระบาดทำให้งานโอกาสพิเศษต่างๆ หยุดชะงักและทำให้ไม่มีงานเข้ามาเลย ทำให้ฉันคิดว่าควรจะกลับไปทำงานประจำต่อหรือไม่ แต่สุดท้ายฉันก็ค้นพบว่าทำไมถึงไมลองปรับเปลี่ยนธุรกิจของตัวเองให้เท่าทันกับสถานการณ์ตอนนี้ดู เมื่อรัฐบาลประกาศกฎหมายให้สวมหน้ากากอนามัย ฉันจึงค้นพบวิธีการที่จะทำ แฟชั่นของหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ยอดขายของฉันกลับมาเหมือนเดิม”

ควรจะทำยังไงต่อดี?

คำว่า ”มีทางออกเสมอ” เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกระดับควรมีในการใช้แก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของตัวเอง ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรจะมีนั่นคือ การคิดเชิงบวกเชื่อมั่นว่าตัวเองและธุรกิจของเราจะประสบความสำเร็จ จากนั้นก็เริ่มลงมือเขียนแผนธุรกิจได้เลย จงเรียนรู้ที่จะถามความคิดเห็นของผู้อื่น ศึกษาวิธีการเพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง สุดท้ายคือการเรียนรู้ที่จะปรับตัวและปรับแผนธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้

9036104C 2D88 43C9 A3AD 0C15466A7919

เป็นยังไงกันบ้างครับ อ่านกันมาจนถึงตอนนี้แอดหวังว่าคนที่เริ่มหมดไฟคงเริ่มมีกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆ ขึ้นมากันแล้ว แอดขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเก่ากันทุกคนนะครับ แอดหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกๆ คนที่จะช่วยให้เพื่อนๆ รู้ตัวเองว่าเราควรจะทำยังไงต่อดีกับชีวิตหรือธุรกิจของตัวเอง

เช่นเคยครับถ้าใครไม่อยากพลาดเรื่องราวดีๆ ก็สามารถติดตามบทความดีๆ ได้ที่ designil ได้เลยนะครับ รับรองว่าได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง