ทำไมเว็บดีไซเนอร์เกิน 1 ล้านคนถึงเกลียดฟ้อนต์ Comic Sans!?

designil

why designer hates comic sans font

สวัสดีครับ คราวที่แล้วแนะนำเกมส์เขียนด้วย HTML5 ที่เป็นของใหม่กันไปแล้ว เรามาลองดูของเก่าแต่น่าสนใจกันบ้างครับ

ฟ้อนต์ชื่อ Comic Sans คิดว่าคนส่วนใหญ่ต้องเคยได้ยิน หรือเคยใช้กันมาอยู่แล้วครับ ฟ้อนต์น่ารัก ๆ ที่ติดมากับ Windows ตัวนี้ตอนเด็ก ๆ ที่ผมทำรายงานก็ชอบใช้เหมือนกันครับ มันอ่านแล้วสบายตา แล้วก็ให้ความรู้สึกแบบชิว ๆ ดีด้วยครับ

สำหรับสาเหตุที่มาเขียนบทความนี้ เพราะหลงเข้าไปเจอเว็บ Comic Sans Criminal มาครับ เป็นเว็บไซต์อธิบายว่า ทำไมเราถึงควรเลิกใช้ฟ้อนต์ Comic Sans

เพิ่มเติม: มีอีกเว็บไซต์หนึ่งที่มีจุดประสงค์เดียวกันนี้ ชื่อ Ban Comic Sans ครับ ใครอยากลองฝึกภาษาอังกฤษแนะนำให้ลองเข้าไปอ่านเว็บ Comic Sans Criminal ครับ ใช้ภาษาอ่านง่ายดีครับ

ประวัติ: Comic Sans Font เกิดขึ้นมาได้ยังไง

ฟ้อนต์ตัวนี้เกิดขึ้นมาจากฝีมือของพนักงานตำแหน่ง Typographic Engineer ใน Microsoft ครับ โดยเป็นคนเดียวกับที่ดีไซน์ font ชื่อ Trebuchet กับ Magpie สำหรับฟ้อนต์สุดแอ๊บแบ๊วตัวนี้เขาสร้างขึ้นมาเพราะอยากได้อะไรง่าย ๆ ที่มีส่วนโค้ง และให้ความรู้สึกนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้างแบบ Times New Roman

ตอนแรกฟ้อนต์นี้ถูกโยนลงถังขยะเนื่องจากปัญหาด้านความสามารถของโปรแกรมในขณะนั้น เพราะฟ้อนต์นี้ไม่สามารถวางลงบนกริดได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการถูกนำไปใช้กับโปรแกรม Microsoft Movie Maker เวอร์ชั่นแรก และถูกรวมเข้าไปเป็นฟ้อนต์ที่มากับ Windows ตั้งแต่ Windows 95

หลังจากนั้นเป็นต้นมา คนเริ่มแห่กันมาใช้ฟ้อนต์นี้ในงานหลายแบบ แต่ยิ่งคนใช้เยอะขึ้น คนชอบมากขึ้น คนที่เกลียดก็มากขึ้นตามไปด้วย…

(เล่าแล้วเหมือนดราม่าเลยครับ 55)

ทำไมดีไซเนอร์ถึงไม่ชอบฟ้อนต์ Comic Sans

ในช่วงแรกการดีไซน์บนคอมพิวเตอร์ยังไม่มีใครสนใจเรื่องการเลือก Font มากนักครับ ต่างกับตอนนี้ที่เรื่อง Typography เป็นเทรนด์เว็บดีไซน์อันดับต้น ๆ ของปี 2011 เลยทีเดียว

ต้องบอกก่อนว่าฟ้อนต์ Comic Sans นี่ออกแบบมาสำหรับ:

  • ใช้ในกล่องคำพูดของตัวการ์ตูน
  • ใช้สำหรับเด็กโรงเรียนประถม อนุบาล
  • บัตรเชิญเด็ก ๆ มางานปาร์ตี้ของลูกตัวน้อย

แต่มันดันแพร่หลายมาก ๆ จนถูกนำไปใช้สำหรับโรงพยาบาล โบสถ์ ออฟฟิส ร้านอาหาร และข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลค่อนข้างซีเรียส เลยทำให้กลุ่มดีไซเนอร์ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ Font ในการออกแบบมาก ๆ เกิดรับไม่ได้ครับ ต้องมาจัดแคมเปญต่อต้านการใช้ฟ้อนต์ Comic Sans กัน

อย่างไรก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการต่อต้านของเค้าค่อนข้างมีเหตุผลครับ ลองมาดูตัวอย่างว่า Comic Sans ไม่เหมาะกับงานแบบไหน

ฟ้อนต์ Comic Sans

จากรูปด้านบนเป็นการเปรียบเทียบระหว่างการใช้ฟ้อนต์ Comic Sans กับฟ้อนต์ที่ควรจะใช้จริง ๆ ครับ จะเห็นได้ว่าฟ้อนต์ Comic Sans ให้ความรู้สึกน่ารัก ๆ และไม่ทำให้เรารู้สึกว่าควรต้อง STOP เท่ากับป้ายด้านขวาที่ใช้กันตามปกติ

ลองคิดง่าย ๆ ว่ามีจดหมายที่เนื้อหาถึงขั้นคอขาดบาดตายส่งมาถึงคุณ แต่ดันใช้ฟ้อนต์ Comic Sans ที่น่ารักนุ่มนิ่มเขียน คุณจะรู้สึกแปลก ๆ หรือเปล่า?

เว็บ Comic Sans Criminal นี่เกลียดฟ้อนต์นี้ถึงขนาดมีแนะนำ ฟ้อนต์แนวการ์ตูนน่ารัก ๆ ตัวอื่น ๆ ที่น่าใช้ให้ด้วยเลยครับ คนจะได้เลิกใช้ Comic Sans กัน ถ้าคุณเห็นด้วยก็ลองไปเช็คดูในเว็บไซต์ของเค้าได้ครับว่าจะใช้ฟ้อนต์ไหนแทนดี

สรุปว่าเราควรใช้ฟ้อนต์ Comic Sans มั้ย

ฟ้อนต์ Comic Sans ไม่ใช่ฟ้อนต์ที่ออกแบบมาแย่ครับ มันเป็นฟ้อนต์ที่ออกแบบมาดี และเหมือนกับฟ้อนต์ทั่ว ๆ ไปที่ต่างก็มีที่อยู่ที่เหมาะสมของมันครับ เราแค่ต้องเลือกใช้ให้ถูกกับงานเท่านั้น

สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ผมคิดว่าถ้ามันเหมาะกับงานก็ใช้เต็มที่เลยครับฟ้อนต์ตัวนี้ ถ้ามีงานออกแบบเว็บไซต์ที่กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก ๆ หน่อยผมก็คงใช้เหมือนกันครับ ถึงดีไซเนอร์ฝรั่งบางส่วนเค้าจะแอนตี้ฟ้อนต์นี้กันก็จริง แต่ถ้าเราเห็นว่ามันเหมาะก็เชื่อเซนส์ตัวเองครับ ลูกค้าที่เค้าจ้างเราก็เพราะเค้าเชื่อเซนส์เราเหมือนกัน

อ่านแล้วคิดเห็นยังไงโพสคอมเม้นท์ไว้เลยครับ อยากทราบความคิดเห็นที่ทุกท่านมีต่อฟ้อนต์นี้ครับ

designil

designil

Data engineer & WordPress Developer ทำงานที่บริษัทแคนว่า ซิดนีย์ออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นเจ้าของเว็บไซต์ Designil, DataTH ชอบอ่านบทความใหม่ๆ ตลอดเวลา และชอบสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้ภาษาที่เข้าใจง่าย ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ
บทความทั้งหมด

2 Responses

  1. UT Sans ร้องหั่ย…😹😹😹
    ส่วนตัวใช้บ่อยมากค่ะเพราะผูกพันแหละ น้อนน่ารักมากจนใช้มาถึงปัจจุบันนี่แหละค่ะ😸😸😻

  2. ส่วนตัวคิดว่าฟอนต์ตัวนี้มันน่ารักดีนะคะ แต่ควรใช้ให้ถูกมากกว่า ฟอนต์ตัวนี้เหมาะกับงานที่มันผ่อนคลายน่ารักๆ มากกว่าค่ะ^^
    (จริงๆ ขึ้นอยู่กับคนใช้ค่ะ ว่าเขาใช้ถูกกรณีรึเปล่า)

    [พอขึ้นชื่อว่า sans แล้ว แอบสะดุ้งเลยค่ะ55555 ไม่คิดว่าฝรั่งจะเกลียดจนขึ้นแท่นที่สุดของโลก555]