เพื่อนๆ หลายคนคงจะสงสัยว่าจำเป็นจะต้องเรียนในระดับมหาลัยมั้ยถึงจะหางานหรือจะเปลี่ยนสายอาชีพได้ วันนี้เราอยากมาแชร์มุมมองจากเพจ Facebook, มุมมองจาก User หลายๆท่านใน Reddit, และมุมมองของแอดเองที่ทำงานกับมหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลีย
ต้องออกตัวแรงไว้ก่อนเลยว่าแอดรวบรวมมาเยอะมาก เนื่องจากเนื้อหานี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่พอสมควร และอาจจะทำให้ใครหลายๆ คนไม่พอใจได้ ถ้าใครมีความคิดเห็นอะไรฝากไว้ในคอมเม้นท์กันได้เลยนะ :D
ทำไมคนถึงเกลียดการเรียนออนไลน์ได้เกียรติบัตร?
จะว่าไปแล้วก็ยังมีคนอีกมากมายที่ยัง Love hate relationship ทั้งรักทั้งเกลียดกับการเรียนออนไลน์ที่ไล่ล่าเกียรติบัตรแบบต่างๆ เราลองมาดูคอมเม้นท์ที่น่าสนใจกันดีกว่า
คุณ Kgraves บอกว่า “โห การมีคอร์สเรียนของ Google online ออกมานี่มันดีมากเลยนะ พอมีใบประกาศแล้วก็บอกได้เลยว่าจะจ้างหรือไม่จ้าง” (ออกแนวประชดนิดๆ)
คุณ Alfiedotwtf ยังมาตอบอีกว่า “นี่ก็เป็นสาเหตุที่ฉันเกลียดการเรียนเก็บใบประกาศน่ะสิ มันควรจะมีคนมานั่งคุยกับผู้สมัครก่อนดีกว่ามั้ย ไม่ใช่จะทิ้งใบสมัครอันอื่นเพราะแค่ใบประกาศณียบัตรแค่อันเดียว”
นอกจากนี้ยังมีมุมมองของคุณ Alfiedotwtf มากล่าวเพิ่มอีกว่า
“ฉันต้องรับมือกับ Developers มากมายที่ไล่ล่ากับใบประกาศณียบัตรแต่เขียนโค้ดไม่เป็นสักกะบรรทัด แถมเขียน print ไม่เป็นอีก ถ้าให้เปรียบเทียบคนพวกนี้กับคนที่ฉันทำงานด้วยที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย คนที่เขาเรียนเขียนโค้ดด้วยตนเองจากหนังสือและ tutorials เองยังจะเก่งซะกว่า”
บางคนใน Quora ก็กล่าวว่า
“สาเหตุที่คนเกลียดเกียรติบัตรก็เพราะว่ามันสามารถโกงข้อสอบได้อย่างง่ายดายน่ะสิ”
จะว่าไปก็มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คนรู้สึกไม่ชอบกับการเรียนออนไลน์เพื่อเก็บเกียรติบัตร ถือว่าเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างมีการถกเถียงอยู่พอสมควรเลย ว่าคนเราควรจะต้องมีประสบการณ์ก่อนมั้ยถึงจะสมัครงานได้ ไม่ใช่แค่เกียรติบัตรไม่กี่อัน
เรียกได้ว่ามีทั้งคนรักและคนเกลียด แต่ในขณะที่มีบางคนอาจจะมองว่าการเรียนออนไลน์และการเก็บเกียรติบัตรนั้นฉาบฉวย เรามาดูมุมมองอีกฝั่งจาก Reddit ใน Topic ที่ว่า
ข้อดีของการเรียนออนไลน์ได้เกียรติบัตร
แน่นอนว่าก็ต้องมีกระทู้มาดีเบตกันอย่างแน่นอนในเรื่องของการเรียนออนไลน์แล้วหางานได้จริง มาดูกันเลยค่ะ
อย่างในโพสต์ของ Reddit ล่าสุด มีคนมาโพสต์ว่า
“แชร์วิธีเริ่มจากการตกงานไปจนได้งานเงินเดือนปีละ 70K โดยไม่มีประสบการณ์ ไม่ได้เรียนจบมหาลัย ไม่มีคอนเนคชั่นและความรู้ทางด้านการเขียนโปรแกรมมาก่อน ภายในครึ่งปี”
ภาพด้านบนนี้เป็นไทม์ไลน์ในการเรียนทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นตอนการหางานทำ
โดยเริ่มจากการเรียนออนไลน์กับ Harvard’s CS50x ไปจนถึงเรียนกับ Freecodecamp และเริ่มสอบ Certificate กับ AWS และอื่นๆ ถือว่าเป็น Journey ที่ทรหดอดทนและแข็งขันมากกับการเรียนทางด้านการเขียนโปรแกรม
และปัจจุบันเจ้าของโพสต์ได้งานเกี่ยวกับทางด้าน Cloud แล้วเรียบร้อยด้วยนะคะ ยินดีกับเจ้าของกระทู้ด้วยจริงๆ
อ่านต่อที่นี่ How I went from jobless to 70k with no experience/degree/connections/previous knowledge (in half a year)
นอกจากนี้ยังมีอีกกระทู้ที่มีคนมาตั้งคำถามว่า
“ทำไมคนถึงเกลียดคอร์สออนไลน์ หรือใบประกาศล่ะ”
มีความคิดเห็นมากมาย ขอหยิบอันที่มีคนโหวตเยอะที่สุดมาเล่าให้ฟังเลยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 1
“เฮ้นาย เราว่าพวกเราอย่าใส่ใจคนพวกนั้นมากเลย ตอนนี้ฉันก็เรียนอยู่ในโรงเรียนเพื่อใบ CS เหมือนกัน ฉันเลือกเรียนหลายใบด้วย แล้วตอนนี้ก็ได้งานเงินเดือนสูงผ่านการเรียนพวกนั้นแหละ จริงๆ แล้ว Certs มันดีนะมากกว่าวุฒิมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำไป วุฒิมหาวิทยาลัยอาจจะทำให้เราผ่านด่านของ HR แต่ในความเป็นจริงใบ Certs จะทำให้เราได้เงินเดือนสูงขึ้น ตั้งใจเรียนต่อไปนะนาย เราไม่รู้ตัวหรอกว่ามันดียังไง จนกว่าจะเห็นเงินในบัญชีเงินฝาก และงานน่าสนุกที่ได้ทำ ตอนนั้นแหละมันจะคุ้มค่ามาก สู้ๆนะเพื่อน”
ความคิดเห็นที่ 2
“ดูเหมือนว่าคนที่เกลียดคือคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยละก็มีความรู้ไปไหนต่อไหนแล้วอะ บางทีพวกเขาคงอยากจะบอกว่าเส้นทางที่ตัวเองผ่านมามันดีกว่ามั้ง สำหรับคนที่มีวุฒิมหาวิทยาลัยแล้วเขาก็จะบอกว่าการเรียนเก็บใบประกาศมันเสียเวลาไง แต่จริงๆ เรียนทั้งสองอย่างก็พาเราไปสู่จุดหมายเหมือนกันนั่นแหละ ขึ้นอยู่กับเวลาและประสบการณ์ด้วย ใบประกาศมันก็ดี มันช่วยให้เราเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง แถมยังไม่ต้องปวดหัวกับสภาพแวดล้อมแบบในโรงเรียนในมหาลัยด้วย”
ความคิดเห็นที่ 3
“คนที่เกลียดก็คือคนที่ล้มเลิกไปก่อน เรียนไม่จบแล้วมาด่าคนอื่นไง อย่าให้ใครมาทำลายความตั้งใจและเป้าหมายของคุณเลยนะ”
ความคิดเห็นที่ 4
“ถ้าเกิดคุณคิดว่าใบประกาศนั้นดี คุณคิดผิด และถ้าคุณคิดว่าใบประกาศไม่ดี คุณก็คิดผิดเหมือนกัน จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับงาน, บริษัท, และการจ้างงานของบริษัทด้วย อย่างพวกใบประกาศก็ช่วยให้คุณผ่านด่านของ HR ที่ไม่รู้เรื่องของ IT ไปได้ และยังช่วยให้มันอยู่บน Resume ของคุณ เห็นได้ชัด แต่มันจะไม่ดีตามนี้นะ
- หัวหน้าสนใจทักษะการทำงานมากกว่าใบประกาศ ไม่ว่าใบประกาศจะมีมากมายก่ายกองเท่าไร แต่ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ เขาก็ไม่รับคุณเข้าทำงานอยู่ดี
- ผมเป็น CISSP ผมไม่เคยสอบใบประกาศ Cyber-security สักกะใบ และก็นั่นแหละไม่มีคนรับผมเข้าทำงาน
- คุณอาจจะสอบใบประกาศผิดตัวและเสียเงินฟรีๆ ได้ เช่น ถ้าคุณมีใบประกาศ CCNA, Sec+, RHCSA แต่ว่างานประกาศรับสมัครอยากได้คนที่มี Microsoft Certified Azure Administrator คุณก็ไม่ได้งานอยู่ดี
ไม่ว่าจะใบประกาศ ปริญญาบัตร และประสบการณ์ก็มีความสำคัญทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามันจะมีประโยชน์สำคัญกับคุณตอนไหนมากกว่า”
มีแค่ใบประกาศณียบัตร จะหางานได้จริงๆ มั้ย ?
มีแค่ใบประกาศณียบัตร จะหางานได้จริงหรือเปล่า?
ต้องตอบเลยว่า “ได้ค่ะ” เราลองมาดูรีวิวของฝั่ง Design คุณ Furgie บอกไว้ว่าได้เริ่มเรียน Google UX Design ในเดือนพฤษภาคม แต่ได้งานในเดือนสิงหาคม ถือว่าสุดยอดมากๆ เลยค่ะ
หรือดูตัวอย่างในเคสแรกที่เราแนะนำไปเรียนออนไลน์และมีใบ Certificate จนหางานทำได้เงินเดือนปีละ 70K
จริงๆ ยังมีอีกหลายเคสเลยนะคะที่เรียนเพียงแค่ออนไลน์ด้วยตนเองจนสามารถหางานทำได้โดยที่ไม่ได้จบตรงสาย
เรียนออนไลน์ได้เกียรติบัตรหางานที่ต่างประเทศได้หรือไม่ ?
เราลองมาดูฝั่งของออสเตรเลียกันดีกว่าว่าการเรียนออนไลน์จากไทยนั้น จะช่วยให้หางานที่ต่างประเทศได้หรือไม่
ข้อมูลจาก AusThai Insider แอดมินผู้ทำงานสาย Data analyst ที่ไม่ได้เรียนโดยตรงมาทางด้านนี้ ได้อธิบายเรื่องของการหางานที่ออสเตรเลียไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ
มีคนเยอะเเยะมากที่จบโทออส บางคนทั้งตรีทั้งโทออส ก็ยังบ่นหางานยากหางานไม่ได้สักที เเต่บางคนมาจากไทย (หรือเพื่อนเเอดมินบางคนมาจากจีน/อินเดีย/เนปาล/ South Africa) ไม่ได้เรียนต่ออะไรเลย ก็ได้งานในบริษัทดีๆ เฉย…
การเรียนปริญญาช่วยอะไรบ้าง?
หลักๆ ก็คือเป็นสิ่งพิสูจน์ qualification ด้านการศึกษาว่าเราผ่านการปรับกระบวนการความคิดมา ซึ่งก็ช่วยให้เราหย่อนใบสมัครได้กระจายขึ้น และช่วยเราในการปรับตัว คือ เเทนที่มาถึงจะทำงานเลยอาจจะคัลเจอร์ชอคปรับตัวไม่ทัน การที่ได้เรียนในระบบการศึกษาของเค้าก่อนก็จะช่วยในการปรับมุมมอง ปรับสกิล เเละเปิดโลกค่ะ อีกอย่างคือได้คอนเนคชั่นจากช่วงเรียน เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนอีกว่าเราเข้าร่วมกิจกรรมนู่นนี่บ่อยเเค่ไหน ถ้าเราใช้เวลาอยู่เเค่บ้านกับห้องเรียน ก็อาจจะสร้างคอนเนคชั่นไม่ได้เยอะเท่ากับคนที่ไม่ได้ลงเรียนเเต่ไปงานสังคม งานอีเวนท์ งานเนตเวิคกิ้งบ่อยๆ
อะไรที่ทำให้คนไม่มีปริญญาออสก็มีโอกาสได้งานไม่เเพ้กัน?
ความขยัน ความอึด ความฉันจะไปต่อ เเล้วพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอในด้านต่างๆ ค่ะ เช่น ภาษาอังกฤษ สกิลคอมพิวเตอร์ การเข้าสังคม การสื่อสารเเละอื่นๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้โลกเราเเคบลงมากเเละมีข้อมูลเยอะเเยะบนอินเตอร์เนต เราสามารถลงคอร์สออนไลน์ถูกๆ ฝึกสกิลที่เราขาดเหล่านี้เองได้ไม่ยากเลยถ้าเราเปิดกว้างมากพอส่วนเสริมอีกอย่างคือประสบการณ์ทำงานทั้งจากไทยเเละในออสค่ะ ถ้าเรามีประสบการณ์ทำงานมาไม่ว่าจะเป็นเเค่ internship หรือ volunteer ก็มีเเต้มต่อ
ดังนั้นไม่ต้องไปกังวลค่ะ ตลาดงานที่ออสเตรเลียนี่เค้าไม่ได้ปิดขนาดนั้น ตำเเหน่งงานส่วนมากถ้าหาอ่านไปเเอดมินเข้าใจว่าไม่มีใครเขียนว่าต้องการ Australian degree ถึงจะมีก็น้อยมาาาาก จริงๆ…
ทั้งหมดที่เล่าไปก็จะเป็นมุมมองจากหลายๆ ฝั่ง ทั้งฝั่งที่เป็น Developer, Designer, Data analyst
แอดนัทเองก็อยากจะขอแชร์ฝั่งประสบการณ์จากตัวเอง ผู้ทำงานสาย Edtech กับมหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลีย มีประสบการณ์ทำงานมา 7 ปีจากประเทศไทย สาย UX และ UI ไม่เคยเรียนจบในออสเตรเลีย จบปริญญาตรีจากไทย และไม่มีใบประกาศสักใบตอนสมัครงาน มีแค่ประสบการณ์ทำงานเท่านั้น
สำหรับแอดนัทเองการเรียนประกาศณียบัตรเองมีข้อดีและข้อเสียปะปนกันไปเลยนะคะ
ข้อเสียของการเรียนออนไลน์ได้เกียรติบัตร
1. ถ้าไม่ตั้งใจเรียน เรียนเพื่อสอบใบประกาศไปเพื่อใช้ในการเก็บผลงาน ที่แย่ไปกว่านั้นคือโกงข้อสอบมาเพื่อให้ได้ใบประกาศ การเรียนประเภทนี้ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วบริษัทก็อยากจ้างคนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการทำงานอยู่ดี
อย่างบริษัทสาย Tech ขนาดใหญ่ที่ต่างประเทศจะมีการสัมภาษณ์ interview กันหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นรอบ Technical, HR, Aptitude, Verbal ability round หรือ Written Round ซึ่งบางบริษัทอาจจะมีการสัมภาษณ์ถึงห้าหกรอบและมี Whiteboard challenge อีกนั่นหมายถึงประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและความสามารถเท่านั้นถึงจะทำให้ได้งาน
ข้อดีของการเรียนออนไลน์ได้เกียรติบัตร
1. ได้ทักษะที่ทันสมัยต่อการทำงาน เพิ่มเงินเดือนและเพิ่มทักษะได้ การเรียนระยะสั้นบางครั้งช่วยให้เราอัพเดทเทคโนโลยีและตามโลกได้ไวมากกว่าเรียนมหาวิทยาลัย
2. สำหรับคนที่กำลังอยากเปลี่ยนสายอาชีพ ลาออกจากงานมาแล้ว หรือว่างงานอยู่ การเรียนออนไลน์ที่มีใบประกาศณียบัตรจะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเรา ว่าเรายังเรียนรู้อยู่สม่ำเสมอ และเรามีรักที่จะทำงานในสายงานนั้น ทำให้ช่วงที่เราไม่มีงานทำใน Resume เราจะมีใบประกาศณียบัตรงานมาเติมเต็มในช่วงที่เราหายไปได้นั่นเอง
3. บริษัทส่วนใหญ่ในสาย Tech ปัจจุบันไม่ได้ดูเรื่องวุฒิการศึกษาในการเข้าทำงาน บางครั้งใช้แค่ Certificate ก็สามารถสมัครเข้าทำงานได้แล้วค่ะ
แต่ช้าก่อนบริษัทส่วนใหญ่จะเริ่มดูวุฒิการศึกษาตอนจะปรับคุณเป็นระดับ Manager หรือ Senior แปลว่าถ้าอยากเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าการมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทก็ยังคงมีความสำคัญอยู่นั่นเองค่า
เป็นไงบ้างเอ่ย อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็น่าจะตัดสินใจกันได้แล้วว่าจะเรียนต่อ หรือไม่เรียนต่อดี สำหรับแอดเอง แอดขอเชียร์ไปร้อยแรงม้า อยากเรียนอะไรเรียนไปเลยค่ะ สุดท้ายแล้วการเรียนอะไรก็ตามก็ให้ความรู้กับเราอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ถ้าใครสนใจเรียนออนไลน์ ลองมาดูบทความรีวิวคอร์สของเราได้จากด้านล่างนี้เลยนะคะ มีทั้งวิชาชีพที่จะเป็นที่ต้องการในอนาคต, คอร์สเรียนที่เหมาะสม และอื่นๆ อีกเพียบ มาเข้าแก๊งเรียนออนไลน์ไปด้วยกันนะคะ ^_^
- รวมบทความการศึกษา
- รีวิว 10 คอร์สเรียน UX จาก Coursera เทคโนโลยีใหม่ๆ เพียบ
- รีวิวคอร์ส Google UX Design professional certificate
- รวมอาชีพในอนาคต เรียนอะไรดี ทักษะไหนจะไม่ตกงาน
- 10 สุดยอดคอร์สเรียนออนไลน์เพื่ออาชีพในอนาคต
Coursera เว็บไซต์รวมคอร์สสอนออนไลน์เนื้อหาระดับโลก เรียนแบบเริ่มต้นฟรี
สายชอบเรียนเก็บ Certificate ห้ามพลาด เรียนฟรีแบบเริ่มต้น เสียเงินหากต้องการใบประกาศณียบัตร
คอร์สเรียนมากกว่า 3000+ วิชา จากผู้สอนระดับโลก
Datacamp
ผู้นำคอร์สเรียนด้าน Data ทุกสายงานตั้งแต่ Data analyst, Data scientist และ Data engineer
Udemy คอร์สเรียนออนไลน์
– รวมคอร์สเรียนออนไลน์เริ่มต้นที่ 349 บาท ซื้อขาด ในราคาประหยัด
– ซื้อแบบ subscription เพียงเดือนละ 450 บาท เพื่อเรียนได้ 8,000+ หลักสูตร
ดูรีวิวคอร์สเรียนจากเรา มีคอร์สน่าสนใจเพียบ Education
