แนะนำ 10 ฟอนต์สำหรับทำ Resume ภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการสมัครงานครั้งไหน Resume ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่เช่นเดิม ข้อมูลส่วนตัวของเราเพียงหน้าเดียว มีผลต่อการได้รับเลือกเป็นอย่างมาก มีการวิจัยกันมาว่าผู้พิจารณารับสมัครนั้นจะใช้เวลาอ่านเรซูเม่ของคุณเพียง 6 นาทีเท่านั้น ก่อนจะตัดสินใจเก็บหรือทิ้งมันไป เวลาสั้นๆ ที่คล้ายจะบ่งบอกว่าใบสมัครของคุณมีความหมายมากพอหรือไม่กับตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการ เพราะฉะนั้น ผู้สมัครงานจำต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดบน Resume ไม่เว้นแม้กระทั่งฟอนต์ที่ใช้
วันนี้ เราจะมาดูกันฟอนต์แบบใดบ้างที่เหมาะสมกับการแสดงผลบนเรซูเม่มากที่สุด
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับฟอนต์ Serif & Sans serif กันก่อนเลยครับ ว่าภาษาอังกฤษสองตัวนี้ต่างกันอย่างไร ทำไมเราถึงจะต้องเอามาใช้ในการเขียน Resume และ Portfolio ให้ดูน่าเชื่อถือกัน
ฟอนต์ภาษาอังกฤษ Sans serif และ Serif แตกต่างกันอย่างไร?
ฟอนต์ Sans serif และ Serif เป็นสองลักษณะของฟอนต์ที่มีความแตกต่างกันดังนี้:
Sans serif
ฟอนต์ Sans serif มีลักษณะเป็นตัวอักษรที่ไม่มีเส้นขอบเพิ่มเติมบนส่วนปลายของตัวอักษร จึงทำให้ดูมีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมแบบง่าย มักถูกนำมาใช้ในงานออกแบบที่ต้องการความสดใส สดใส และมีลักษณะทันสมัย เช่น เว็บไซต์ ป้ายโฆษณา หรือโลโก้ หรืออย่างเช่นโฆษณาออนไลน์ หรือแบบงานที่ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย
Serif
ฟอนต์ Serif มีลักษณะของการออกแบบที่มีเส้นขอบที่ตัดขวางเส้นขอบของตัวอักษร ซึ่งมีลักษณะที่เป็นไปได้ว่าเพิ่มความเป็นอยู่ของฟอนต์ และทำให้ผู้อ่านสามารถอ่านได้ดีกว่าฟอนต์ Sans serif ในบางกรณี เช่น ในงานพิมพ์หนังสือ และงานที่ต้องการความเป็นอยู่
ดังนั้น การเลือกใช้ฟอนต์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และลักษณะของงานที่จะใช้ฟอนต์นั้น ถ้าต้องการความสดใสและโดดเด่น ควรใช้ฟอนต์ Sans serif แต่ถ้าต้องการความเป็นอยู่และความสมบูรณ์ของฟอนต์ ควรใช้ฟอนต์ Serif
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสไตล์ที่เราต้องการด้วยนะครับ ว่าอยากให้งานของเราออกมาจริงจัง หรือทันสมัย เรียบหรู แล้วแต่ไสตล์เลยครับ
และในวันนี้ Designil จะมาแนะนำฟอนต์ที่ต้องบอกเลยว่า อ่านง่ายมากๆ เหมาะสำหรับทำ Resume & Portfolio โดยเฉพาะ และเป็นฟอนต์ที่หลายตัวมีมากับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่าง Windows และ MacOS อีกด้วย
มาเริ่มดูกันเลยครับ
10 ฟอนต์สำหรับทำ Resume มีอะไรบ้าง?
ฟอนต์ที่ใช้บนเรซูเม่จะบ่งบอกความเป็นผู้เชี่ยวชาญและความเฉพาะตัวของคนๆ นั้น และนี่คือ 10 ฟอนต์ที่ถูกมองว่าเหมาะสมครับ
1. Helvetica
Helvetica เป็นฟอนต์สไตล์ Sans Serif สัญชาติสวิส ซึ่งออกแบบโดย Max Miedinger โดยมีความกว้างที่สม่ำเสมอและรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในงานออกแบบที่หลากหลาย ด้วยรูปลักษณ์ที่สะอาดตา ทันสมัย และอ่านง่าย แต่ยังมีความคลาสสิกแทรกซึมอยู่ ทำให้ Helvetica เป็นฟอนต์ที่มีการใช้กันกว้างขวางในงานโฆษณา และเหมาะที่จะใช้ในเอกสารที่มีแต่ตัวอักษร จึงมักถูกใช้เป็นฟอนต์สำหรับทำ Resume ของคนที่ต้องการหางานในแวดวงธุรกิจ การตลาดและการขาย
2. Time New Roman
ในปี 1931 หนังสือพิมพ์ The Times ได้จัดทำฟอนต์ Time New Roman เพื่อให้อ่านง่ายบนสื่อสิ่งพิมพ์ ออกแบบโดย Stanley Morison นักออกแบบตัวอักษรชาวอังกฤษ เป็นฟอนต์ Serif แบบคลาสสิกที่ค่อนข้างคลีน นิยมใช้ในงานเชิงวิชาการ เอกสารทางวิชาชีพ เนื่องจากมีลักษณะที่อ่านง่าย ฝ่ายบุคคลบางองค์กรก็ชื่นชอบฟอนต์ที่มีลักษณะอ่านง่ายและคลาสสิกแบบนี้เช่นกัน ฟอนต์จำพวกนี้จึงค่อนข้างได้รับความสนใจมากหน่อย ก็ไม่เลวนะถ้าจะเลือกใช้เป็นฟอนต์สำหรับทำ Resume ของคุณ
3. Arial
ฟอนต์ Arial เป็นฟอนต์ที่ถูกทำขึ้นในปี 1982 เพื่อทดแทน Helvetica ที่ไม่สามารถใช้บนคอมพิวเตอร์ได้ในขณะนั้น ทำให้ฟอนต์ Arial มีความคล้ายคลึงกับ Helvetica อยู่มาก แต่จะมีลายเส้นที่สะอาดตาดูทันสมัย โดดเด่นด้วยน้ำหนักลายเส้นและระยะห่างระหว่างตัวอักษรที่สม่ำเสมอกัน ดูมีความเป็นมืออาชีพ มักใช้กับเอกสารที่มีข้อความจำนวนมาก งานนำเสนอ และการแสดงผลบนหน้าจอ รวมไปถึงเป็นหนึ่งในฟอนต์ที่เหมาะสำหรับสำหรับทำ Resume ด้วย เพราะเมื่ออยู่บนหน้ากระดาษที่มีแต่ตัวอักษร ความเป็นฟอนต์ sans serif ทำให้มันทั้งดูอ่านง่าย ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ดูตกยุคเกินไป
4. Calibri
อีกหนึ่งฟอนต์สำหรับทำ Resume ที่โดดเด่นด้วยขอบโค้งมนและรูปลักษณ์ที่สะอาดตา ทันสมัย พร้อมรูปลักษณ์ที่ถูกย้อลงเล็กน้อย ทำให้สามารถแสดงข้อความบนหน้ากระดาษได้มากขึ้น มีความชัดเจนสูง อ่านง่าย เหมาะสำหรับใช้งานในข้อความเนื้อหาบนขนาดพื้นที่ขนาดเล็ก เป็นอีกหนึ่งฟอนต์พร้อมใช้งานที่ได้รับความนิยมสูง อีกทั้งยังเป็นฟอนต์เริ่มต้นในโปรแกรมและแอปพลิเคชัน Microsoft Office ด้วยความที่เป็นฟอนต์ที่ดูสะอาดตาและทันสมัย มีการออกแบบที่เรียบง่ายและอ่านง่าย จึงเหมาะสำหรับใช้ใน Resume อีกด้วยครับ
5. Didot
เป็นฟอนต์สำหรับทำ Resume ที่มีความอาร์ตเล็กๆ ให้กลิ่นความเป็นครีเอทีฟในตัว โดดเด่นด้วยความแตกต่างระหว่างลายเส้นหนาและบาง รวมถึงมีรูปลักษณ์ที่สวยงามและประณีต และมีความซับซ้อน จึงมักใช้ในโพรเจกต์ออกแบบระกับไฮเอนด์ เช่น นิตยสารแฟชั่น และบรรจุภัณฑ์สินค้าแบรนด์หรู ตัวอักษรถูกออกแบบให้สูงและแคบ เน้นแนวตั้ง มีการเล่นน้ำหนักของลายเส้น สามารถอ่านได้ชัดเจนเมื่อมีขนาดใหญ่ เป็นฟอนต์ที่เหมาะสำหรับทำ Resume สำหรับศิลปิน ดีไซน์เนอร์ หรืองานที่ใช้ความครีเอทีฟ
6. Garamond
ฟอนต์ Garamond เป็นฟอนต์แบบ Serif Classic ปัจจุบันมีมากมายหลายเวอร์ชัน อาทิ Adobe Garamond, ITC Garamond และ Monotype Garamond ซึ่งแต่ละเวอร์ชันจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ทั้งหมดจะมีสไตล์แบบเดียวกัน เป็นฟอนต์สำหรับทำ Resume ที่มีความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามเหนือกาลเวลา มีความชัดเจน และอ่านง่ายแม้ในพื้นที่ขนาดเล็ก ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับข้อความที่มีเนื้อหายาวๆ และเป็นทางการ และต้องการความจริงจัง เช่นหนังสือหรือเอกสารทางวิชาการ ถึงแม้ฟอนต์ Garamond จะเป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันน้อยกว่าฟอนต์แบบอื่น แต่ก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้ทำ Resume ให้ดูมีสไตล์เหมือนกันนะครับ และฟอนต์นี้ก็มักจะถูกใช้ในกลุ่มพวกครีเอทีฟและในแวดวงนักการศึกษาด้วยครับ
7. Avenir Next
Avenir Next เป็นฟอนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปรับปรุงอักษร Avenir ดั้งเดิม และเป็นหนึ่งในฟอนต์ยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่สะอาดตา ทันสมัยของรูปทรงเรขาคณิต มีความเรียบง่ายและมีน้ำหนักที่สม่ำเสมอตลอดทั้งตัวอักษร ทำให้เป็นแบบอักษรอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ในงานได้หลากหลาย รวมไปถึงใช้ทำ Resume ด้วยครับ ข้อดีของ Avenir Next คือความชัดเจนแม้ในพื้นที่ขนาดเล็ก อีกทั้งยังสามารถปรับการใช้งานได้หลากหลายเนื่องจากมีน้ำหนักและสไตล์ที่แตกต่างกันมากมาย ได้แก่ แบบธรรมดา ตัวหนา แบบบาง แบบย่อ และอื่นๆ โดยรวมแล้ว Avenir Next ยังคงเป็นฟอนต์ที่ดูคลาสสิก เพราะอ่านง่าย สบายตา เหมาะสำหรับใช้ทำ Resume ไม่เบาเลยครับ
8. Georgia
Georgia เป็นแบบอักษรเซอริฟที่ออกแบบโดย Matthew Carter ในปี 1993 ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้สำหรับการแสดงผลบนหน้าจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนจอคอมพิวเตอร์ที่มีความละเอียดต่ำ และปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิทัล ฟอนต์ตัวนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Times New Roman แต่ตัวอักษรจะดูอ้วนกว่าเล็กน้อยทำให้อ่านง่ายแม้ในขนาดที่เล็ก สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลาย ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูอบอุ่น เป็นมิตรทำให้ Georgia เป็นฟอนต์ที่นิยมใช้บนเว็บไซต์ หนังสือ และสื่อที่มีเนื้อหายาวๆ และด้วยความคลาสสิกของฟอนต์นี้ทำให้เป็นอีกหนึ่งฟอนต์ที่เหมาะสำหรับทำ Resume ที่มีความสุภาพและเป็นมิตรชวนให้อ่านครับ
9. Tahoma
ดูเหมือนฟอนต์ sans serif ตัวนี้จะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ใช้งานชาวไทยด้วยเป็นฟอนต์พื้นฐานในระบบปฏิบัติการ นั่นเป็นเพราะ Tahoma เป็นฟอนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการแสดงผลบนหน้าจอโดยเฉพาะนั่นเองครับ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดตาและทันสมัยจากรูปแบบของเรขาคณิต ทำให้เป็นแบบอักษรที่มีความเรียบง่ายและอ่านง่าย อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้มีลักษณะสูงและระยะห่างระหว่างตัวอักษรค่อนข้างแคบ ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนตัวอักษรได้มากบนพื้นที่จำกัด เห็นได้ชัดเจนแม้ในพื้นที่ขนาดเล็ก ความโดดเด่นนี้เองที่ทำให้ฟอนต์ Tahoma ถือเป็นเป็นฟอนต์ที่อ่านง่ายเมื่ออยู่ใน Resume เช่นกัน
10. Trebuchet MS
Trebuchet MS เป็นอีกหนึ่งฟอนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับสื่อดิจิทัลโดยเฉพาะ เป็นแบบอักษร sans-serif ที่มีลักษณะโค้งมน ทำให้ดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย เห็นได้ชัดเจน อ่านได้แม้ในขนาดที่เล็ก อีกทั้งยังได้รับการออกแบบให้มีตัวจะหนาและมีขนาดใหญ่ รวมถึงมีระยะห่างระหว่างตัวอักษรที่พอเหมาะ ทำให้มีความชัดเจนแม้แสดงผลบนหน้าจอ อีกคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของฟอนต์ Trebuchet MS คือลายเส้นที่เขียนด้วยลายมือ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเขียนด้วยลายมือจริงๆ สิ่งนี้ทำให้ Trebuchet MS เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานที่ต้องการเอกลักษณ์ และความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักและรูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมาย รวมถึงแบบปกติ ตัวหนา ตัวเอียง และแบบย่อ เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสิ่งพิมพ์ และแน่นอน รวมไปถึง Resume ด้วยครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงถึงเวลาต้องเลือกสักฟอนต์สำหรับทำ Resume ของคุณแล้วล่ะ
การเลือกใช้ฟอนต์สำหรับ Resume เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะจะมีผลต่อความเข้าใจของผู้อ่านด้วย ดังนั้นจะเลือกฟอนต์ไหนก็ตามแต่บุคลิกและสไตล์ของตัวเองที่อยากสื่อสารไปถึง HR นั่นแหละครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง