8 เครื่องมือสำหรับการสร้าง Portfolio online ฟรี
ทำ portfolio ฟรี สำหรับดีไซเนอร์และฟรีแลนซ์ โดย Portfolio ก็เหมือนเป็นหน้าเป็นตาของเรา เอาไว้ใช้เป็นใบเบิกทางให้ข้ามไปอีกด่านใหม่ แล้วตอนนี้การสร้าง Portfolio ออนไลน์ก็เป็นเรื่องสิ่งที่ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ต้องมีไว้ประดับกาย
แล้วถ้าคุณยังไม่มี Portfolio ออนไลน์เท่ๆ เพราะว่าคุณเขียนโปรแกรมไม่เป็น วันนี้เรามีเครื่องมือการสร้าง Portfolio ง่าย ๆ ให้เลือกใช้ รับรองว่าถ้าพอร์ทสวย โดนใจลูกค้า งานใหม่ไหลมาเทมาจนทำไม่ทันแน่ ๆ
*บทความนี้อัพเดทแล้ว เลือกมาเฉพาะที่ใช้งานได้จริงเลยครับ
ทำ Portfolio ฟรี ตามเครื่องมือด้านล่างดังนี้
1. Carbonmade
Carbonmade สามารถช่วยคุณสร้าง Portfolio ได้ง่ายๆ ที่ๆ คุณสามารถอวดผลงานชิ้นโบว์แดง แล้วยังมี UI ง่ายๆ น่าใช้
Carbonmade มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงินให้คุณเลือกใช้ โดยแบบฟรีคุณต้องลงทะเบียนและใส่ผลงานได้แค่ 5 โปรเจค และอัพรูปได้แค่ 35 รูปเท่านั้น ถ้าใครงานดีๆ เด็ดๆ เยอะแล้วชอบ Carbonmade ก็ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มนาจา
ค่าบริการของ Carbonmade: ฟรี 5 โปรเจค หลังจากนั้นเริ่มต้นที่ $6 (210 บาท) ต่อเดือน สำหรับ 10 โปรเจค
2. Adobe Portfolio
Adobe Portfolio เป็นระบบสำหรับทำพอร์ตโฟลิโอส่วนตัวสำหรับดีไซเนอร์แบบง่าย ๆ หน้าตาเรียบหรู สามารถเลือก Template ปรับแต่งแล้วใช้งานได้เลย ข้อดีของระบบนี้ คือ เชื่อมกับ Behance สามารถดึงงานที่เราอัพโหลดไว้ใน Behance มาแสดงได้เลย และเชื่อมต่อกับ Typekit สามารถเรียกฟ้อนต์สวย ๆ มาแสดงได้อย่างง่ายดาย
สำหรับเรื่องราคาจะเรียกว่าฟรีก็ได้ครับ เพราะบริการ Adobe Portfolio มาพร้อม Creative Cloud Subscription สำหรับใครที่ซื้อ Photoshop รายเดือนอยู่แล้วก็สามารถเข้าใช้บริการนี้ได้เลย
ค่าบริการของ Adobe Portfolio: ฟรี โดยผู้ใช้ต้องมี Creative Cloud Subscription (300 บาท – 1,500 บาท / เดือน)
3. Dunked
Dunked เป็นอีกหนึ่งบริการ Portfolio ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากใช้ง่าย และหน้าตาสวยงาม นอกจากนั้นราคายังไม่สูงอีกด้วย
ผู้ใช้ Dunked สามารถเลือกดึงข้อมูลจาก Youtube, SoundCloud, Vimeo, 500px, และ Flickr มาแสดงผลได้ทันที และหากใครเขียนโค้ดเป็นก็สามารถแก้ HTML & CSS ได้
ค่าบริการของ Dunked: เริ่มต้นที่ $10 (350 บาท) ต่อเดือน สำหรับ 10 โปรเจค
4. Wix
Wix เป็นที่รู้จักดีกับเครื่องมือการสร้างเว็บไซต์สำหรับคนที่ไม่เขียนโค้ดเอง Wix มี feature ที่ช่วยทำให้คุณมีตัวตนในโลกออนไลน์ และยังใช้ง่ายอีกด้วย แค่ลาก แล้ววางส่วนประกอบต่างๆ มี template ให้เลือกมากมาย แล้วยัง feature ให้แชร์ไป social media ด้วย เผลอๆ คุณอาจจะโด่งดังข้ามคืนเลยนะ
ค่าบริการของ Wix: ฟรีพื้นที่ 500 MB และมีโฆษณา Wix หลังจากนั้นเริ่มต้นที่ $8.5 (300 บาท) ต่อเดือน สำหรับพื้นที่ 3 GB
5. Dribbble
Dribble เป็นสังคมออนไลน์ของดีไซเนอร์ illustrators และ web developers ที่แชร์ screenshots ของงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แต่สิ่งที่พิเศษคือสามารถให้ผู้ใช้คนอื่นออกความคิดเห็นเกี่ยวกับงานได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณรวบรวมไอเดียต่างๆ ก่อน publish งาน
เมื่อคุณได้ร่วมสังคม Dribble แล้วแชร์ผลงานของตัวเอง คุณก็ได้เพิ่มโอกาสให้แมวมองมาเห็นงานคุณมากขึ้น แล้วก็มีดีไซเนอร์ไม่น้อยเลยนะที่ได้งานจาก Dribble นี้
นอกจากนั้น Dribbble ยังเป็นแหล่งหาไอเดียชั้นเยี่ยม ที่เราเคยแนะนำไว้ในบทความ 5 เว็บไซต์หา Inspiration ที่ Web Designer เก่ง ๆ เข้าทุกวัน อีกด้วยครับ
ค่าบริการของ Dribbble: ฟรี โดยต้องมีลิงค์เชิญจากสมาชิกในเว็บไซต์ Dribbble
6. Behance
Behance เป็นออนไลน์แพลตฟอร์มที่ไว้โชว์ผลงานของเรา และที่ ๆ เราสามารถหาไอเดียจากผลงานคนอื่น Behance มีผู้เยี่ยมชมหลายล้านต่อเดือนที่กำลังมองหาดีไซเนอร์ฟรีแลนซ์ แล้วมันก็เชื่อกับ Prosite เว็บสร้างเว็บไซต์ฟรี ที่ให้คุณออกแบบ Portfoilio ออนไลน์ได้ง่ายๆ โดยการลาก วางเช่นเคย แถมมีการติด Google Analytics และปุ่ม Social Media ไว้ด้วย เสร็จสรรพลงตัว
ใน Behance รวบรวมงานทางด้านออกแบบไว้มากมาย เหมาะสำหรับคนที่กำลังหางานเลยล่ะครับ เพราะเราสามารถหางานแบบข้ามประเทศได้ด้วย
ค่าบริการของ Behance: ฟรี
7. DeviantArt
DeviantArt เป็นชุมชนศิลปะ สำหรับสายอาร์ต สาย Character design, Painting, 3D ที่เอาไว้ให้สร้าง Portfolio ที่มีผู้เยี่ยมชมหลายล้านต่อเดือน ซึ่งคุณสามารถสร้าง Portfolio ออนไลน์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยสักนิดเดียว DeviantArt มี 2 ทั้งแบบฟรี และแบบพรีเมี่ยมเพื่อที่จะมีชื่อโดเมนเป็นชื่อของคุณเอง
ค่าบริการของ DeviantArt: มีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน
8. WordPress.com
คงไม่มีใครไม่รู้จัก WordPress.com CMS ในการสร้างเว็บไซต์แบบฟรี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปในการจัดเก็บข้อมูล Portfolio โดยไม่ต้องซื้อ Host และ Domain ด้วยตนเอง
โดยการสร้างเว็บไซต์ประเภท Blog ของตัวเองด้วย WordPress จะมีข้อดีตรงที่ ระบบเหล่านี้จะมีส่วนให้เราสามารถจัดการหน้า จัดการภาพและงานของเรา ตกแต่งธีมของเว็บไซต์เพื่อนำเสนองานได้ด้วยตนเอง ง่ายครบจบในเว็บเดียว แถมยังมีวิธีการสอนใช้งานเพียบบน Youtube
ค่าบริการของ WordPress : มีบริการเป็นแบบรายเดือนสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งเว็บไซต์แบบพิเศษ, ใส่ธีมเพิ่ม หรือใส่ Domain name ที่คุณต้องการ
9. Canva ทำเว็บไซต์ทำไม ใช้ Presentation นำเสนอซะเลย
ใช้โปรแกรม Canva ทำ Portfolio presentation แบบออนไลน์ โดยไม่ต้องใช้เว็บไซต์พอร์ตฟอลิโอแต่อย่างใด เพียงแค่เราทำสไลด์ในการนำเสนอผลงานของเราให้เป็นลำดับเล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย คุณก็จะได้นำเสนอได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม
10. Coroflot เว็บไซต์ทำ Portfolio ที่ดีไซน์เนอร์แนะนำ
เว็บไซต์ Coroflot นี้จะเหมาะสำหรับดีไซน์เนอร์ที่มีงานหลากหลายสไตล์ ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องทำงานดิจิตัลเพียงอย่างเดียว ในเว็บไซต์จะมีหน้า Profile เป็นหน้าให้เราใส่ประวัติการทำงานได้อย่างละเอียด และยังมีตัวอย่างงานออกแบบสวย ๆ ให้เราเลือกดูเพียบ
สรุปเครื่องมือทำ Portfolio ฟรีแบบออนไลน์ ใช้บริการแบบไหนดี?
Portfolio ออนไลน์หลัก ๆ มีอยู่ 4 แบบ ดังนี้:
- ใช้ระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป ใส่โลโก้เราเองได้ รวมไปถึงผูกระบบเข้ากับโดเมนเราเอง ได้แก่ CarbonMade, Adobe Portfolio, Dunked, Viewbook, WordPress.com และ Wix
- เว็บไซต์ Community รวมศิลปิน เราสามารถเข้าไปสร้างโปรไฟล์ของเราได้ แล้วอัพโหลดผลงาน เพื่อให้คนอื่นเข้ามาดู อาจจะมีลูกค้ามาเห็นแล้วติดต่อจากช่องทางนี้ก็ได้ ได้แก่ Dribbble, Behance, DeviantArt
- ทำ Presentation เป็นสไลด์นำเสนอออนไลน์ หรือส่งเป็นไฟล์ PDF ที่ Host อยู่บนออนไลน์ ทำให้ HR ผู้จ้าง เข้าดูผลงานของเราได้ทันทีโดยไม่ต้องส่งไฟล์ไปมา เช่น ทำจากเว็บ Canva
- สร้างเป็นเว็บไซต์ของเราเองแบบง่าย ๆ วิธีนี้คือซื้อ Hosting + Domain แล้วติดตั้งเว็บไซต์ WordPress ลงบน Hosting ด้วยตนเองพร้อมใส่ธีม การทำเว็บไซต์ประเภทนี้จะช่วยให้เราปรับแต่ง Layout ได้อย่างไม่จำกัด สามารถเพิ่มหน้าได้ตามใจชอบ แต่ข้อเสียจะใช้เวลานานกว่าและต้องมีความรู้ทางด้านการปรับแต่ง WordPress เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ข้อดีของการทำเว็บไซต์เองคือเราสามารถทำระบบพาสเวิร์ดเพื่อรักษาข้อมูลงานที่เป็นความลับได้ หรือป้องกันการค้นหาเจอจาก Google
แนะนำว่าควรทำมากกว่า 1 แบบเพราะว่ายิ่งเรามีงานอยู่ในออนไลน์เยอะเท่าไร ลูกค้าก็จะค้นหาเราเจอง่ายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
หลังจากเลือกเว็บและเครื่องมือสร้าง Portfolio ออนไลน์เพื่อเพิ่มความเท่ และเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าติดต่อเราแล้ว ก็อัพโหลดผลงานชิ้นเอกของคุณ แล้วก็รอเขาติดต่อมา หรือไม่ก็ร่อน Resume + Portfolio ไปเลยจ้าาา
อ่านจบแล้ว? เราแนะนำบทความนี้
สาย WordPress สำหรับคนที่เน้นของฟรีล้วน และติดตั้ง WordPress เป็น ต้องการธีมฟรีและสวย
แอดขอแนะนำบทความด้านล่างนี้เลยครับ
- แจกฟรี WordPress Theme สำหรับทำ Portfolio
- Hosting และ Domain name ไว้ทำเว็บไซต์พอร์ตฟอลิโอเอง ตัว Hosting ในประเทศไทย จะมีบริการติดตั้ง WordPress ฟรีทันที ใช้งานได้ทันทีภายใน 5 นาที ง่ายและสะดวกมาก ๆ
10 Hosting ยอดฮิตในไทยสำหรับเว็บไซต์ WordPress
ส่วนถ้าใครอยากพัฒนาฝีมือตัวเองเพื่อรับงานทั้งด้านดีไซน์ Design และด้านโค้ด มาดูบทความแนะนำด้านล่างนี้เลย
- เทคนิคการทำ Portfolio สำหรับสาย UI UX บทความนี้มีวิดีโอสอนอย่างละเอียด
- คอร์สเรียนออนไลน์สาย UX UI เริ่มต้นที่ 349 บาท ในบทความนี้มีคอร์สสอนทำ Portfolio ให้ได้งานด้วย
- รวม 10 เว็บไซต์เรียนเขียนเว็บฟรี หลักสูตร Web development
- อยากเป็น UI/UX มั้ย? มาลองทำโจทย์ 100 วันกับเว็บนี้
- เทคนิคสัมภาษณ์งาน UX UI และ 20 คำถาม Interview ยอดฮิต
*บทความนี้เขียนโดย Guest Writer คุณอันนา แห่งเว็บไซต์ Frank.co.th ขอขอบคุณที่แวะมาแชร์ความรู้ดี ๆ มา ณ ที่นี้ครับ