VPN คืออะไร? รีวิว 3 VPN ยอดนิยมสำหรับคนใช้อินเตอร์เน็ต
VPN เป็นอะไรที่ยอดนิยมมากในปัจจุบันเลยครับ วันนี้แอดมินเลยจะหยิบยกเรื่องของ VPN มาอธิบายและเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังแบบภาษาเข้าใจง่าย ๆ รวมไปถึงรีวิวเปรียบเทียบยี่ห้อของ VPN ฟีเจอร์การใช้งาน และราคาแบบละเอียด ใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ VPN มาเลือกใช้งานกันตามข้อมูลของเราวันนี้ได้เลยครับ
VPN คืออะไร ?
VPN หรือ Virtual Private Network อธิบายแบบง่าย ๆ คือระบบเน็ตส่วนตัวจำลอง ทำให้เราสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย ปกป้องตัวตนและไฟล์ของเราจากโลกออนไลน์ รับส่งข้อมูลได้อย่างไร้กังวลบนเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ที่อยู่ในระบบ VPN เดียวกัน โดยในการใช้งานจะมีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด ดังนั้นผู้ใช้งานจึงจะต้องมี Login/Password ถึงจะใช้งานได้ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะไม่สามารถเข้ามาใช้งานข้อมูลชุดนี้ได้เลยครับ
ข้อดีที่นอกเหนือจากเรื่องของความปลอดภัยแล้ว ยังรวมไปถึงใช้ข้ามโซนประเทศ ทะลุการปิดกั้นข้อมูลหลาย ๆ อย่างได้ โดยสำหรับผู้ที่ใช้ VPN ในองค์กรกับการทำงานจะมีข้อดีเรื่องของความปลอดภัย Security เพราะข้อมูลที่เรารับส่งนั้นจะมีการเข้ารหัสอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรามั่นใจในการท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้มากยิ่งขึ้นครับ
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นคนวัยไหนก็หันมาใช้ VPN กันมากยิ่งขึ้นจากทั่วโลกเลยครับ เพราะความกังวลเรื่องของ Data privacy, security รวมไปถึงความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกปิดกั้นด้วย
5 ข้อดีของ VPN ที่คนใช้งานเว็บไซต์ต้องใช้
1. ข้ามประเทศ ใช้อ่าน Content ของประเทศอื่น
กรณีนี้ค่อนข้างจะเจอบ่อย ๆ เลยครับ เพื่อน ๆ ก็น่าจะเคยเจอเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นแอดอยากจะไปดูหนัง Netflix, Hulu ของประเทศออสเตรเลียหรืออเมริกาก็สามารถข้ามประเทศไปดู content ของประเทศอื่นได้, อยากทดลองใช้งาน Amazon Prime, หรือจะเป็นคนที่อยู่ต่างประเทศแต่อยากจะดูซีรีส์เกาหลีแอพ VIU แอพ LINE TV ในประเทศไทย เป็นต้น
ดังนั้นการมีโปรแกรมวีพีเอ็น บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ได้โดยไม่ถูกปิดกั้น
2. แชร์ไฟล์อย่างปลอดภัย
ในระหว่างการใช้วีพีเอ็น การแชร์ไฟล์ระหว่างคุณและผู้อื่นจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หมดห่วงเรื่องของ Data จะถูกขโมยหรือว่าจะถูกดักนำไปใช้อื่น ๆ
3. เข้าถึงได้แบบรีโมต
VPN เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับบริษัท ที่จัดเก็บข้อมูลไว้ในภายในเซิฟเวอร์ของตนเองและอยากให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ข้อมูลก็จะได้รับการป้องกันเป็นอย่างดีระหว่างใช้งานด้วย VPN
3. ใช้งานแบบไม่เปิดเผยชื่อ
ข้อดีที่ดีที่สุดคือมีโปรโตคอลการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ถูกบล็อก นอกจากนี้ยังสามารถปิดบังที่อยู่ IP และตำแหน่งของผู้ใช้ได้อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้แบบไร้ตัวตน ไม่เปิดเผยชื่อ
การใช้ VPN ทำให้เราสามารถใช้งานเว็บไซต์โดยไม่เปิดเผยตัวตนได้ ซึ่งจะทำงานได้ดีกว่าการใช้งาน Incognito mode บน Google chrome และ web proxies ซึ่งเพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่าสองสิ่งนี้ไม่ได้ป้องกันข้อมูลหรือปกปิดตัวตนเราแต่อย่างใดเลยครับ
4. เจาะทะลุทุกการป้องกัน unblock เว็บไซต์ เข้าถึงได้ทุกประเภทข้อมูล
ในบางพื้นที่ทั่วโลกจะมีการจำกัดการเข้าใช้งานเว็บไซต์หลาย ๆ แห่ง เช่น จากประเทศจีน จะบล็อก Youtube, Facebook, Google, Gmail และอื่น ๆ ดังนั้นหากเราจะเข้าใช้เว็บไซต์เหล่านี้ได้ เราจึงจะต้องมี VPN นั่นเองครับ ถึงจะทำให้เราสามารถปลดบล็อกได้อย่างปลอดภัย และข้อดีอีกอันคือการใช้งานแบบ VPN จะมีการเข้ารหัสไว้ทำให้เราใช้งานแบบได้ราบรื่นไม่ต้องกลัวการถูกติดตาม
ส่วนในประเทศไทยเองนั้นเราสามารถใช้ VPN ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกหรือถูกปิดกั้นโดยกระทรวงต่าง ๆ เช่นกระทรวง ICT อันนี้แอดเองก็ไม่รู้ว่าบล็อกเว็บอะไรบ้าง เราอาจจะต้องไปจินตนาการกันเอาเองนะครับ
เราจะใช้ VPN เรียกพลังกลับมาสู่ในมือของเราให้จงได้ครับ
5. ความปลอดภัยอันเหนือชั้น
เพราะว่า VPN เป็นการใช้งานแบบเข้ารหัส ดังนั้นเราจึงจะสามารถปกป้อง IP address, สถานที่, พาสเวิร์ด และข้อมูลอื่น ๆ ของเราให้ปลอดภัยจากแฮคเกอร์ หรือบริษัทใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ที่พยายามจะเปิดเผยข้อมูลตัวตนของเรา หรือแม้แต่บริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตกับเรา (บริษัท ISP ที่ให้บริการเน็ตกับเรา เขาก็สามารถติดตามข้อมูลเราได้นะเออ) ดังนั้น VPN จึงถือว่าปลอดภัยและตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคนที่กังวลเรื่องของ Security เลยครับ
6. ความสะดวก รวดเร็ว และราคาไม่แพง
ถ้าเกิดว่าแค่ข้อดีทางด้าน security แบบออนไลน์ยังไม่พอ ตัว VPN ยังช่วยเพิ่มความเร็วอย่างเช่น Bandwidth หรือความสะดวกในการใช้งานด้วยครับ เรื่องของ Performance นี่ความเร็วเป็นสิ่งที่คนที่ใช้วีพีเอ็นชื่นชอบมากที่สุดเลยครับ
ส่วนในเรื่องของราคาไม่แพง ตัว VPN สามตัวด้านล่างที่ผมแนะนำไปก็มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเดือนละ 46 บาทเองครับ ถือว่าประหยัดมาก ๆ เทียบกับความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานของเรา
ตารางรีวิวเปรียบเทียบการใช้งานของ VPN ชื่อดัง
Atlas VPN | Ivacy VPN | Nord VPN |
---|---|---|
เหมาะสำหรับ ท่านที่กำลังมองหา VPN ฟรี | เหมาะสำหรับ VPN ที่มีจุดเด่นเรื่องของ Privacy & Security | เหมาะสำหรับ บุคคล หรือองค์กรที่ต้องการใช้งาน VPN แบบปลอดภัย |
Platform supported Windows Mac SaaS iPhone iPad Android | Platform supported Windows Mac SaaS iPhone iPad Android | Platform supported Windows Mac SaaS iPhone iPad Android |
ราคา $1.39/เดือน 46 บาท/เดือน | ราคา $27/ผู้ใช้งาน/ปี 887 บาท/ปี หรือ 73 บาท/เดือน | ราคา $3.71/เดือน 122 บาท/เดือน |
ราคา ใช้งานได้ฟรี ใช้งานแบบ Free Trial | ราคา ใช้งานได้ฟรี ใช้งานแบบ Free Trial | ราคา ใช้งานได้ฟรี ใช้งานแบบ Free Trial |
ฟีเจอร์หลัก Anonymous Browsing DNS Leak Protection Kill Switch Multi-Language Multi-Protocol Peer-to-Peer Policy Management Remote Access Web Inspection Network Security VPN | ฟีเจอร์หลัก Anonymous Browsing DNS Leak Protection Kill Switch Multi-Language Multi-Protocol Peer-to-Peer Policy Management Remote Access Web Inspection Network Security VPN | ฟีเจอร์หลัก Anonymous Browsing DNS Leak Protection Kill Switch Multi-Language Multi-Protocol Peer-to-Peer Policy Management Remote Access Web Inspection Network Security VPN |
ผู้ให้บริการ Atlas VPN Founded: 2020 Delaware, USA | ผู้ให้บริการ Ivacy Founded: 2007 Singapore | ผู้ให้บริการ NordVPN Founded: 2012 Panama |
สมัครใช้บริการ Atlas VPN | สมัครใช้บริการ Ivacy VPN | สมัครใช้บริการ Nord VPN |
*สำหรับตัวหนังสือสีเทาคือฟีเจอร์ที่ไม่มีให้บริการนะครับ
*ราคาเป็นการคำนวนจากเรตเงินบาทปัจจุบัน
รีวิว VPN ยอดนิยม
Atlas VPN
มี User หลาย ๆ ท่านได้ลงความเห็นกันว่า Atlast VPN มีหน้าตาที่ใช้งานง่ายมาก User friendly และฟรี
ผมคิดว่าเรื่อง UI ใช้งานง่าย ต้องยกให้อันดับต้น ๆ เลยครับ
ข้อดี
- อย่างที่เราได้เกริ่นไปในตอนต้นเลยนะครับว่า Atlast VPN มีข้อดีคือมีฟีเจอร์ที่สามารถให้เราใช้งานได้ฟรี และฟีเจอร์ที่ให้ทดลองใช้งานแบบ Free trial
- ถ้าเกิดใช้งานแบบตัวเสียเงินจะมี location ประเทศให้เลือกถึง 32 ประเทศ
ยังไม่มีประเทศไทย สำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศอยากดูหนังไทย ข้ามไปตัวอื่นก่อนเลยนะครับ - สามารถใช้งาน Torrenting ได้
- ใช้งาน Netflix ข้ามประเทศได้
- ความเร็วในการใช้งานแอพที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ถ้าดู Youtube ก็คือความเร็วดีมาก ไม่กระตุกเลยครับ
ข้อเสีย
- มีการติดตาม Location ของเรา รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เราใช้งาน
- ไม่สามารถใช้งานได้บน Linux
- ฟีเจอร์จะน้อยกว่าตัวอื่น ๆ
- ไม่มี dedicated IP หรือ IP ส่วนตัว
Ivacy VPN
IvacyVPN มี Free trial ให้เราทดลองใช้งานได้ 1 วันแบบเต็ม ๆ และข้อดีคือมี Dedicated IP
ข้อดี
- มี Free trial ของเวอร์ชั่นตัวเต็มให้เราทดลองใช้งาน ทำให้เราได้ลองเล่นได้เสมือนกับ account เสียเงิน
- ใช้ Torrent ได้
- ราคาไม่แพงเลย
- เชื่อมต่อ VPN ได้ถึง 10 Device พร้อม ๆ กัน
- Ivacy ถูกออกแบบมาให้รองรับสำหรับการเล่นเกมที่สเถียร รองรับทั้งเกม Pubg, LOL, Hearthstone และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ชำระเงินได้ผ่านทาง Bitpay, Coingate รองรับการใช้เหรียญ Cryptocurrencies ในการจ่ายเงิน
- ติดต่อง่าย เพราะว่าบริษัทอยู่สิงคโปร์ เวลาใกล้กับประเทศไทย เหมาะสมมากหากใครชอบการ support ง่าย ๆ
ข้อเสีย
- ช้าไปสักเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวอื่น แต่ความสเถียรโอเคมาก ๆ เลยครับ
NordVPN
NordVPN เป็น VPN ที่มาแรงมาก ๆ มีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก เพราะข้อดีของ Nord คือความเร็ว, ความสเถียร และมีแบนด์วิธที่ไม่จำกัด
มี 5,400 เซิฟเวอร์ทั่วโลกใน 59 ประเทศ แถม headquatered อยู่ในประเทศปานามาอีกด้วย เรียกว่าอยู่นอกเหนือทุกการจับตามองจากทั่วโลกเลยทีเดียว ปลอดภัยกว่านี้ไม่มีอีกแล้วนี่คือข้อดีที่สุดของ Nord เลยครับ
ข้อดี
- มีการเทส DNS Leak test และพบว่าไม่มี Data leak เลย สามารถท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยเลยครับ
- ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม นี่คือข้อดีที่สุดของ NordVPN เลย เพราะใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ Device
- มี Dedicated IP – IP ส่วนตัว ไม่ต้องแชร์กับใคร
- ใช้งาน streaming website ได้ทั่วโลก เช่น Netflix, Hulu และอื่น ๆ
- ถ้าเกิดใช้งานกับคอมพิวเตอร์ จะมี Browser extensions
- รองรับการชำระเงินแบบ Cryptocurrencies
- ข้อดีอีกอย่างคือ เว็บไซต์และแอพมีภาษาไทยนะครับ ง่ายสุด ๆ
ข้อเสีย
- รองรับ Torrenting แค่บางเซิฟเวอร์เท่านั้น
- บางครั้งแอพและเซิฟเวอร์ช้ามาก
- Static IP addresses พอด้วยความที่เราจะได้ IP ประจำตัวมาจากแอพ เราเลยก็เลยต้องใช้ IP เดิมไปตลอด บางที IP นี้ก็ไปแชร์กับคนอื่นด้วย ก็เลยอาจจะเป็นข้อเสียสักเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่อยากให้โดน track หรือโดนติดตาม
- ไม่มี customer service แบบโทรศัพท์ เราจะต้องติดต่อผ่านทาง live chat, email หรืออ่าน FAQ เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
บทความที่เกี่ยวข้อง
- แนะนำ 7 เว็บลบภาพพื้นหลัง เนียนกริบ ใช้ฟรี ไม่ต้องโหลดโปรแกรม
- แนะนำ 15 Chrome extensions สำหรับ Designers
- 9 โปรแกรมใช้แทน Photoshop Online ฟรี เปิด Psd ได้
- 7 โปรแกรมฟรีที่ใช้แทน Illustrator มาใช้ของถูกลิขสิทธิ์กันเถอะ
Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา