แนะนำ 5 WordPress Theme และ Plugin ยอดนิยมบน Themeforest
หลังจากที่แอดหายหน้าหายตาไปนานกับการเขียนบทความแนว Website development มัวแต่ไปเขียนเรื่องของการออกแบบ มันก็คงถึงเวลาแล้วที่ แอดจะกลับมาเขียนแนวนี้ วะ ฮา ฮ่า(เสียง Magnificent) เพราะนี่คือบทความของข้า(เสียง กอลั่ม)
ปัจจุบันการการพัฒนา website ทั่วไปขึ้นมา มันไม่ได้ยากเหมือนกับการพัฒนาสมัยก่อนแล้ว ที่ต้องจ้างทีม Front เอย Back เอย ขึ้นมาแล้วใช้เวลาพัฒนากันเป็น เดือนๆ กว่าจะปล่อยออกมา แต่ว่าในยุคนี้มันเหมือนเป็น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปซะแล้ว ด้วยการมาของ Web template ที่ขายตามโลกออนไลน์ ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึงได้ เราก็สามารถมีเว็บไซต์ของตัวเอง ที่ดูดีและ Funtional ได้เช่นกัน
วันนี้แอดเลยจะมาแนะนำ 5 Web template ที่ขายดีที่สุดปี 2021 ใน Envato market แพลตฟอร์มแหล่งซื้อขาย WordPress theme ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมทั้ง Plugin ที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของระบบและเพิ่มศักยภาพของ Website ของเพื่อนๆ ให้ดีขึ้นด้วย
5 อันดับ Themeforest WordPress Themes ที่ขายดีที่สุด
1. Avada – WordPress Theme ที่มี Builder เป็นของตนเอง
เป็น Web template – WordPress Theme ที่ขายดีที่สุดในช่วงนี้ ด้วยความที่มี Feature ตอบสนองต่องาน Ecommerce ทั้งระบบ Cart หรือ Check out เป็นต้น พร้อมทั้ง Design layout และ element มากกว่า 120 แบบ ทำให้เราสามารสร้าง Website ที่มีความแตกต่างเฉพาะตัวได้มากมาย นอกจากนี้ยังมี Dynamic content system ที่จะทำให้เราเข้าใจการสร้าง Content ใน Website ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีประสบการณ์ก็ตาม
ในส่วนของ Review Avada ได้คะแนนมากถึง 4.77 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 24,000 ราย ซึ่งถือว่าเยอะมาก
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 60 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,960 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 78 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,550 บาท
สั่งซื้อ Avada : Avada | Website Builder For WordPress & WooCommerce
2. Flatsome – WooCommerce theme
ต่อมาอันดับสองกับ Flatsome อีกหนึ่ง Web template ที่เคลมตัวเองว่าเป็น “Super fast responsive website with amazing user experience ” เช่นเดียวกันกับ Avada ที่ตัว Flatsome ก็มี Feature ที่ส่งเสริมงาน Ecommernce เช่น Swatch, Custom dropdown และรองรับ WordPress 5.0 อีกด้วย นอกจากนี้ Flatsome ยังมีชื่อเสียงทางด้านความเร็วในการประมวล มากที่สุดเมื่อเทียบกับ Template ตัวอื่นใน envato market
ในส่วนของ Review Flatsome ได้คะแนนมากถึง 4.80 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 6,571 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 59 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,930 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 76.63 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,505 บาท
สั่งซื้อ Flatsome : Flatsome | Multi-Purpose Responsive WooCommerce Theme
3. The7 – Ecommerce builder for WordPress
The7 เป็นอีก template นึงที่ได้รับความนิยมมากด้วยราคาที่ถูกกว่าสองอันบนที่กล่าวไป และยังมีการนำไปใช้ในงาน Ecommerce เหมือนกัน สิ่งที่แตกต่างคือ Feature มากมายที่จะได้รับ เช่น 6 plug-inเสริม ที่จะช่วยการทำงานง่ายขึ้น , 1,000+ theme และ 250+ page สำเร็จรูปให้เลือกใช้กัน พร้อมทั้ง Multilingual & translation ready ที่จะช่วยแปล Content เป็นภาษาที่เราต้องการมากกว่า 10 ภาษา
ในส่วนของ Review The7 ได้คะแนนมากถึง 4.76 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 8,206 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 39 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,275 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 49.13 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,606 บาท
สั่งซื้อ The 7 : The7 — Website and eCommerce Builder for WordPress
4. Bridge – Creative Multipurpose WordPress Theme
สิ่งทำ่ทำให้ Bridge แตกต่างอออกมาจาก Template อื่นๆ คือเรื่องของการมีคลิป Tutorial ก่อนใช้งาน ซึ่งเหมาะสมกับมือใหม่ที่ต้องการสร้าง Website เป็นของตัวเองและยังไม่มีความรู้ด้านนี้ นอกจากนี้ยังเด่นทางด้าน Design ที่สวยงามแตกต่างกว่า Template อื่นๆ จนได้รางวัลทางด้าน Design มามากมาย รวมทั้งเรื่อง Customer support ที่พร้อมเสมอ 24 hr เวลาที่มีเรามีปัญหาการใช้งาน สิ่งนี้ก็เป็นที่พูดถึงมากใน Review ของ Bridge เช่นกัน
ในส่วนของ Review Bridge ได้คะแนนมากถึง 4.78 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 6,440 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 59 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,930 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 76.63 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,505 บาท
สั่งซื้อ Bridge : Bridge – Creative Multipurpose WordPress Theme
5. Betheme – Responsive Multipurpose WordPress & WooCommerce Theme
มาถึง Web template สุดท้ายกับ Betheme(Logo คล้าย Behance มาก) ที่เคลมตัวเองว่าเป็น “Biggest WordPress theme ” จากการที่มี website สำเร็จรูปให้เลือกใช้มากกว่า 600 แบบ พร้อมทั้งระบบสร้างที่มีชื่อว่า “Muffin” ที่จะทำให้การตกแต่ง Website ง่ายเพียงลากมาวาง ตอบสนองในทุกงานทั้ง Ecommerce, Content, Portfolio และรองรับ Mobile friendly 100 % ไม่ต้องกลัวการแสดงผลบน Mobile ที่ผิดพลาดอีกต่อไป
ในส่วนของ Review Bridge ได้คะแนนมากถึง 4.82 คะแนน(มากที่สุด) จากจำนวน Review กว่า 6,232 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 59 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,930 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 76.63 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,505 บาท
สั่งซื้อ Betheme : Betheme | Responsive Multipurpose WordPress & WooCommerce Theme
5 อันดับ WordPress Plugins ที่ขายดีที่สุด
1. WooCommerce Dynamic Pricing & Discounts
ในงาน Ecommerce การเพิ่มยอดขาย และจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้า ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจนี้สำเร็จและไปได้ไกล ซึ่งต้องใช้ความรู้ความสามารถทางด้านการตลาด และ คณิตศาสตร์ผู้บริโภคเพื่อคำนวณหาโปรโมชั่นและส่วนลดที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ เพื่อให้เกิด Loyality ระหว่างธุรกิจและลูกค้า นั่นแสดงว่าเราจำเป็นต้องว่าจ้าง ทีมนัการตลาดเก่งๆมาวิเคราะห์หรือเปล่า ?
คำตอบคือ “No” เมื่อคุณรู้จัก WooCommerce Plugin ที่จะช่วยคุณสร้างส่วนลดและโปรโมชั่นที่เหมาะสมได้อัตโนมัติ พร้อมยังเชื่อมต่อไปทาง WordPress โดยตรงได้ ด้วย Key feature ที่สำคัญอย่าง Dynamic Pricing Adjustment และ Multiple Strategies & methods จะทำให้สามารถสร้างการตลาดส่วนลดและ Promotion ที่ยอดเยี่ยม ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากนั่นเอง
ในส่วนของ Review WooCommerce ได้คะแนนมากถึง 4.56 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 541 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 69 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,250 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 93 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 3,040 บาท
สั่งซื้อ WooCommerce : WooCommerce Dynamic Pricing & Discounts
2. Ultimate Membership Pro
Plugin ตัวต่อไปเหมาะสำหรับ Product ที่ต้องการสร้างระบบ Membership ขึ้น เพื่อนๆไม่จำเป็นต้องกังวลกับเกี่ยวกับระบบที่จะเกิดขึ้นอีกต่อไปด้วย UMP ที่จะเป็นเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทางด้านการสร้างประสบการณ์ที่ Exclusive ให้กับทั้งแบบ Free member และแบบ Pay subscription member ตามความเหมาะสม
เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงมากมายและมี Membership กว่า 30,000 คน ใช้ UMP ซึ่งสร้างรายได้จาก Membership มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์
ในส่วนของ Review UMP ได้คะแนนมากถึง 4.54 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 783 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 49 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,600 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 65.50 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,140 บาท
สั่งซื้อ UMP : Ultimate Membership Pro – WordPress Membership Plugin
3. FileBird
สำหรับใครมีปัญหาในการจัดการไฟล์ต่างๆใน Website ก็ควรจะต้องซื้อ FileBird เพราะมันเป็นระบบจัดการไฟล์ที่สมบูรณ์ในตัวเอง เราสามารถสร้าง Folder เก็บไฟล์ต่างๆมากมาย เช่น JPG, PDF, DOC, XLS, MP4 และอื่นๆ พร้อมทั้ง User interface ที่ friendly และใช้งานง่าย และรองรับภาษากว่า 20+ ภาษา
ในส่วนของ Review FileBird ได้คะแนนมากถึง 4.93 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 476 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 39 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,275 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 51.75 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,690 บาท
สั่งซื้อ FileBird : FileBird – WordPress Media Library Folders
4. Bookly PRO
สำหรับใครที่กำลังมองหา Plugin สำหรับการจองหรือที่เรียกว่า Booking ในธุรกิจโรงแรม หรือท่องเที่ยว ก็ต้องนึกถึง Booking Pro แน่นอน กับระบบจัดการจองที่สมบูรณ์ที่สุดในตอนนี้ ทั้งใช้งานง่ายและรองรับกับ Device ทุกรูปแบบไม่ต้องกังวล การแสดงผลใน Tablet หรือ Mobile อีกต่อไป ไม่แปลกที่ทำให้กลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
Booking Pro มี Feature สำหรับระบบออฟไลน์ด้วย ที่จะ Export ไฟล์ประเภท CSV ออกมาได้ในกรณีต้องการเอกสารยืนยัน และยังมีการยิง API ไปที่ Google Calender เพื่อเป็นตัวแจ้งเตือนการจองอีกด้วย ถือว่าสะดวกสะบายมากเลย
ในส่วนของ Review Bookly Pro ได้คะแนนมากถึง 4.54 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 1,037 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 89 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 2,900 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 120.50 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 3,940 บาท
สั่งซื้อ Bookly Pro : Bookly PRO – Appointment Booking and Scheduling Software System
5. WordPress Automatic Plugin
มาถึงกับ Plugin ที่ขายดี ตัวสุดท้ายแล้ว ซึ่งเหมาะกับคนที่ทำสายงาน WordPress Content ต่างๆ รวมทั้งแอดด้วย ก็คือ WAP นั่นเอง ที่จะช่วยเหลือเวลาที่เราต้องการนำ Content จาก Platform อื่นเช่น Facebook, Youtube, IG มาใส่ใน WordPress โดยตัวWAP จะจัดการให้เราอัตโนมัติ สมมุติว่าเมื่อเราทำการ โพสต์ Facebook มันก็จะลิ้งไปที่ WordPress เราด้วย ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการสร้าง Content ในหลาย Platform จำนวนมากได้
ปัจจุบันรองรับ Platform ที่นิยมกว่า 24 platform ตัวอย่างเช่น Soundclound, Amazon, Ebay, Walmart, Facebook, Twitter, Pinterest, Reddit, Itune, Tiktok เป็นต้น
ในส่วนของ Review WAP ได้คะแนนมากถึง 4.83 คะแนนจากจำนวน Review กว่า 1,909 ราย
ในส่วนของราคา license
- ในแบบทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 30 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 980 บาท
- ถ้าต้องการ Extend support สำหรับ 12 เดือน ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 39.38 $(ดอลล่าสหรัฐ) หรือประมาณ 1,290 บาท
สั่งซื้อ WordPress Automatic Plugin : WordPress Automatic Plugin
บทความที่เกี่ยวข้องกับ WordPress
- 10 WordPress Gutenberg Themes แนะนำจาก Themeforest
- 10 Free Gutenberg Themes ธีม WordPress ฟรี โหลดไว ประจำปี
- แชร์ประสบการณ์ใช้ Rank Math SEO Plugin พร้อมรีวิวจากกรุ๊ป WordPress Bangkok
- 12 วิธีปรับเว็บ WordPress ให้รองรับ Core Web Vitals
- [Free WordPress Plugins] รวมปลั๊กอิน (Plugin) เจ๋ง ๆ ของ WordPress แห่งปี
หมายเหตุ: ทีมงาน Designil เราทำงานกันเต็มที่ เพื่อสร้างคอนเท้นท์ดี ๆ มีสาระประโยชน์ให้กับทางผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดนี้มาจากความเห็นของทีมงาน เราแนะนำเฉพาะของดีที่เราเห็นว่ามีประโยชน์จริงเท่านั้นครับ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้ และอยากสนับสนุนให้ทีมงานมีแรงสร้างคอนเท้นท์ดี ๆ เพิ่มในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงค์บนบทความของเราได้ สำหรับบางลิงค์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อย ซึ่งจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ