Backlink คืออะไร? มาทำการตลาดบนเว็บด้วย SEO กันเถอะ

Siranat

หากคุณเป็นคนที่อยู่ในสายงาน SEO หรือ Search Engine Optimization มายาวนานพอสมควร Backlink จะต้องเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณคุ้นเคยอย่างต่อเนื่องแน่นอน เนื่องจากเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับงานนี้โดยเฉพาะ และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับลิงก์ประเภทนี้ จะมีอยู่มากมายในหลากหลายส่วน ซึ่งหากต้องการให้สามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ การเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างถี่ถ้วน ก็ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญด้วยกันทั้งสิ้น และนี่คือสิ่งที่เราจะกล่าวให้คุณได้เรียนรู้ไปพร้อมกันในวันนี้นั่นเอง

นอกจากเราจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ Backlink มากยิ่งขึ้นแล้ว เราก็ยังจะแนะนำวิธีการต่าง ๆ ที่คุณจะสามารถทำได้เพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับเว็บไซต์ของคุณได้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว การอ่านบทความนี้ก็จะทำให้คุณได้รู้เกี่ยวกับเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น แต่หากคุณเป็นคนที่กำลังจะเริ่มต้นเข้าสู่สายงาน SEO และมองหาช่องทางที่จะเรียนรู้ ทางเราก็เชื่อว่าการอ่านบทความนี้ จะเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับคุณแน่นอน


Backlink คืออะไร

Backlink

Backlink คือ ลิงก์จากเว็บไซต์หนึ่งบนหน้า Google ที่จะทำการเชื่อมโยงมายังหน้าเว็บไซต์หนึ่ง ซึ่งบางครั้งจะถูกเรียกว่า inbound links, incoming links หรือ one way links เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่จะยกระดับอันดับของเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมโยงไปหาให้สูงขึ้น หากหน้าเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์กลับไปหานั้น มีเนื้อหาที่มีคุณภาพและสามารถนำมาอ้างอิงได้ หมายความว่าโดยทั่วไปหากลิงก์ลักษณะนี้ถูกส่งมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพในจำนวนยิ่งมาก ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อเว็บไซต์นั้น ๆ มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

ลิงก์ประเภทนี้ถูกใช้งานในการวัดผลมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นวิธีการที่ดีสำหรับการวัดคุณภาพของเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดที่ค่อนข้างมีความชัดเจน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทาง Google จะมีการปรับเปลี่ยนการทำงานของอัลกอริทึมบ่อยครั้ง แต่การวัดผลด้วยลิงก์ลักษณะนี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่มีอยู่มาถึงปัจจุบัน

ซึ่งทาง Google ก็ยังได้มีการประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าลิงก์ประเภทนี้ถือเป็น 1 ใน 3 ปัจจัยหลัก ที่มีความสำคัญเป็นอับดับต้น ๆ ในการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา ดังนั้น จึงหมายความว่าในอนาคต ลิงก์ตัวนี้ก็จะยังมีความสำคัญไปอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ความแตกต่างระหว่างลิงก์ประเภทนี้กับลิงก์ทั่วไป

ลิงก์จะเป็นเหมือนกับสิ่งที่ยึดติดและใช้เพื่ออ้างอิงเอกสาร ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงหน้าเว็บที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นจะต้องจำชื่อของหน้าบนเว็บไซต์ในกรณีที่มีเว็บไซต์ที่จะต้องค้นหามากมาย โดยลิงก์ทั่วไปนั้นจะสามารถแบ่งแยกออกมาได้เป็นลิงก์ภายในและลิงก์ภายนอก ที่จะมีความแตกต่างกันออกไปตามที่มา ส่งผลให้ลักษณะการใช้งานของลิงก์แต่ละประเภท ก็จะให้ผลลัพธ์กับการใช้งานในเชิง SEO ที่ไม่เหมือนกันด้วยเช่นกัน

แต่สำหรับลิงก์ประเภทที่เราได้แนะนำให้กับคุณในวันนี้ จะเป็นลิงก์แบบภายนอก ที่เป็นเหมือนตัวอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่น ๆ และมีคุณสมบัติหลักอยู่ในเรื่องของการแสดงคุณค่า ที่จะแสดงให้เห็นว่าลิงก์จากหน้าเว็บอื่น ๆ มีความเห็นว่าเนื้อหาของคุณมีคุณภาพและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ลิงก์ประเภทนี้ก็ยังจะสามารถแสดงถึงบริบทอื่น ๆ หรือใช้ในการแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรอ่านต่อได้ในบางสถานการณ์ด้วยในเวลาเดียวกัน


Backlink แบบไหนที่มีคุณค่าและมีผลต่อเว็บไซต์มากที่สุด

Checking Backlink

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับลิงก์ประเภทนี้ในเบื้องต้น คือ ลิงก์ทุกตัวจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่ากัน ในการใช้เพื่อจัดอันดับของเว็บไซต์ ซึ่งหากต้องการกล่าวให้ชัดเจนอย่างง่ายดาย ๆ ก็คือ หากต้องการให้เว็บไซต์ของคุณถูกจัดอันดับให้สูงขึ้นบน SERPs หรือ Google Search Result Pages การทำให้ลิงก์เหล่านี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของลิงก์ที่มีคุณภาพ จะมีความสำคัญอย่างมาก หากต้องการให้ผลลัพธ์เป็นไปในทางที่ดี เว็บของคุณก็ควรมีลิงก์ที่มีคุณภาพมากที่สุด ในขณะที่ลิงก์ที่ไม่มีคุณภาพก็ไม่ควรมีอยู่เกิน 1,000 รายการอีกด้วย

สำหรับลิงก์ที่มีคุณค่าหรือมีผลต่อการจัดอันดับบนเว็บไซต์นั้น จะมีองค์ประกอบพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งเราจะสามารถจำแนกออกมาให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ดังนี้

1. ลิงก์ถูกอ้างอิงมาจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้

คุณสมบัติแรกของลิงก์ที่มีคุณภาพ คือ จะต้องถูกอ้างอิงมาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ หากเว็บไซต์ของคุณได้รับการอ้างอิงมาจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกอย่าง Oxford แน่นอนว่าผลงานหรือหน้าเว็บนั้น ๆ ของคุณ จะต้องมีความน่าเชื่อถือกว่าการถูกยืนยันจากบล็อกของคนทั่วไปอย่างแน่นอน

ซึ่งแนวคิดนี้จะเรียกว่า “Domain Authority” หลักการทำงานก็ค่อนข้างง่าย คือ หากคุณมีลิงก์ที่ถูกส่งมาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมากเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้การจัดอันดับในด้านนี้เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

2. ลิงก์ถูกใส่มาจาก Anchor Text ที่ตรงกัน

Anchor Text คือ ส่วนที่จะแสดงผลอยู่ด้านหน้าของลิงก์ ซึ่งก็คือตัวอักษรที่จะทำให้เราสามารถคาดเดาได้ในเบื้องต้น ว่าเมื่อทำการกดลิงก์ที่แนบไว้ เราจะถูกส่งไปยังหน้าใดบน Google หรือจะถูกส่งไปหน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาในลักษณะใด โดยที่ปกติแล้ว anchor text จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ หรือเนื้อหาที่ถูกเชื่อมโยงมา เพราะนอกจากจะทำให้ Google ตรวจจับได้ง่ายแล้ว ยังลดโอกาสที่ผู้ใช้งานจะกดออกจากหน้าเว็บไซต์เพราะเนื้อหาที่ไม่ตรงตามความต้องการได้ด้วยเช่นกัน

3. ลิงก์ถูกส่งมาจากเว็บไซต์หรือเพจที่มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ

Backlink from related website

เมื่อเว็บไซต์ทำการลิงก์กลับมาหาคุณ สิ่งแรกที่ Google จะทำการตรวจจับในทันที จะเป็นเรื่องของความเกี่ยวข้องในรายละเอียดเว็บไซต์ หรือเนื้อหาที่แสดงบนอยู่บนหน้าเว็บต่าง ๆ ว่ามีความเชื่อมโยงกันกับเว็บไซต์ของคุณหรือไม่ เช่น หากเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บที่เกี่ยวกับการแนะนำอุปกรณ์กีฬา ลิงก์ที่ควรจะถูกส่งกลับมาหา ก็ควรจะเป็นเว็บสำหรับการออกกำลังกาย หรือร้านที่วางจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา เป็นต้น

4. ลิงก์เป็นแบบ “Dofollow”

หนึ่งในสิ่งที่คุณจะต้องทำความเข้าใจเสียก่อนในเบื้องต้น คือ Backlink ที่ถูกส่งกลับมายังเว็บไซต์นั้น จะสามารถแบ่งแยกได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ Dofollow และ Nofollow ซึ่งหลักการแบ่งแยกนั้นจะเป็นไปตามเกณฑ์ของทาง Google โดยลิงก์ที่เป็นแบบ Dofollow นั้น จะมีผลต่อการคิดคำนวนอันดับของหน้าเว็บไซต์ ในขณะที่ Nofollow นั้นนอกจากจะไม่ถูกนำมาคำนวนแล้ว ในกรณีที่มีอยู่มากจนเกินไป ก็อาจส่งผลเสียให้กับเว็บไซต์ของคุณให้มีความน่าเชื่อถือที่ลดลงได้อีกด้วย ส่วนลักษณะของลิงก์ที่จะเป็นไปในลักษณะนี้ ก็จะประกอบด้วยลิงก์ที่อยู่บนช่องแสดงความคิดเห็นของบล็อก, ข่าวประชาสัมพันธ์ และโฆษณาที่เป็นแบบชำระเงินนั่นเอง

5. ลิงก์ที่ถูกส่งมาจากเว็บที่ไม่เคยเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของคุณมาก่อน

อีกหนึ่งรูปแบบของลิงก์ที่มีคุณภาพ และได้รับความสนใจรวมถึงมีผลต่อการจัดอันดับมากที่สุด จะเป็นลักษณะของลิงก์ที่เชื่อมโยงมาหาเว็บไซต์ของคุณเป็นครั้งแรก เนื่องจากจะถูกเป็นการอ้างอิงใหม่ ในมุมมองของ Google ที่ใช้ในการตรวจจับ แต่หลังจากการที่มีการลิงก์กลับมาในครั้งต่อ ๆ ไป ผลลัพธ์ที่ได้จะมีผลต่อการจัดอันดับลดลงมา เนื่องจากไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการอ้างอิงที่เพิ่มขึ้นจากผู้อื่น ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาที่น่าสนใจในครั้งแรกอีกแล้วนั่นเอง โดยหากจะต้องอธิบายให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน เราก็จะขอกล่าวว่า

การได้รับ 100 ลิงก์จากเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการได้รับ 1,000 ลิงก์จากเว็บไซต์เดิม


บทสรุป

การทำ Backlink ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดบนเว็บไซต์ จัดเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่มีความยากและซับซ้อนมากที่สุดในงาน SEO เนื่องจากมีปัจจัยมากมายที่จะต้องเรียนรู้ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็จัดได้ว่ามีความสำคัญด้วยกันทั้งสิ้น ส่งผลให้ระยะเวลาที่เราจะต้องใช้ในการเรียนรู้ จึงค่อนข้างมากอยู่พอสมควร เมื่อเทียบกันกับเนื้อหาอื่น ๆ ในเชิงของการเรียน SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ดีที่สุด สำหรับการค้นหาของ Google Search Engine

เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณควรทำเพื่อให้สามารถจัดการกับลิงก์ประเภทนี้ได้อย่างดีที่สุด คือ การใช้เวลาในการค่อย ๆ เรียนรู้ไปอย่างช้า ๆ และศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคที่เกี่ยวข้องไปให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญก็ยังควรเรียนรู้วิธีการสื่อสาร ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกอ้างอิงจากคนอื่น ๆ บนช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา