6 วิธีหาลูกค้า Freelance UX Designer พร้อมเทคนิคจาก Google
เมื่อคุณตัดสินใจจะเริ่มงานในฐานะฟรีแลนซ์ สิ่งที่จะต้องเตรียมพร้อมให้ดีที่สุด เพื่อให้มีงานทำอย่างต่อเนื่อง คือ การมองหาลูกค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้คนทำอาชีพฟรีแลนซ์มากมาย รวมถึงอาชีพ UX Designer เช่นกัน ทำให้การแข่งขันในการหาลูกค้าค่อนข้างสูงตามไปด้วย แต่เพราะการสื่อสารผ่านออนไลน์มีความสะดวกและรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการหาลูกค้าสำหรับ Freelance UX Designer อย่างละเอียด เพื่อให้คุณมีโอกาสในการทำงานมากขึ้น และสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นมากที่สุด
ซึ่งคนที่ทำงานในสายอาชีพใกล้เคียงก็สามารถใช้งานขั้นตอนและวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ในการมองหางานที่มีคุณภาพได้ด้วยเช่นกัน และหากคุณเริ่มสงสัยว่าในขั้นตอนหรือวิธีการที่เราจะกล่าวถึงนั้น คุณจะต้องเตรียมตัวหรือทำอย่างไรบ้าง ก็มาลองดูไปพร้อมกันกับส่วนต่อ ๆ ไปของบทความนี้ได้เลยครับ
วิธีหาลูกค้า Freelance UX Designer ที่จะช่วยให้คุณได้งานที่ดีที่สุด
01 สร้างเว็บไซต์สำหรับแสดงผลงานออกแบบที่ทันสมัย
Portfolio เป็นพื้นที่สำหรับการอัปเดตประสบการณ์การทำงานและผลงานของคุณในก้าวแรก ที่จะทำให้คุณดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในสายอาชีพนี้การใช้งานช่องทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงผลงานของตัวเองเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีอย่างมาก และรูปแบบที่ดีที่สุดก็คือการสร้างเว็บไซต์ สำหรับเป็นผลงานของคุณในการทำงาน โดยเว็บไซต์ที่คุณได้ทำการออกแบบมานั้น ควรแสดงความสามารถและทักษะทั้งหมดของคุณออกมาอย่างเต็มที่ เพราะจะทำให้เมื่อลูกค้าเข้ามารับชม จะได้เห็นผลงานที่เป็นมืออาชีพที่สุดของคุณนั่นเองครับ
แนะนำ เทคนิควิธีทำ Portfolio สำหรับสาย UI UX พร้อม รีวิว Canva Pro เครื่องมือช่วยสร้าง Portfolio อย่างมืออาชีพ
Canva โปรแกรมออกแบบใช้งานฟรี~
โปรแกรมออกแบบกราฟิก ฟรี! ไม่มีข้อผูกมัด มาพร้อมเทมเพลตหลักแสนแบบ สามารถใช้งานได้บน Browser, iOS, Android มีแอปฯ บนมือถือและไอแพด
สำหรับแพ็กเกจ Pro จะมีใช้งานฟรี 30 วัน เริ่มต้นที่ 1,850.00 ฿ ต่อปี (ใช้งานได้ 1 คน)
02 พัฒนาโปรไฟล์โซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นการทำงานเป็นฟรีแลนซ์ อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรทำ เพื่อให้สามารถหาลูกค้าที่ต้องการจ้างงาน Freelance UX Designer ได้ดีมากขึ้น ก็คือการสร้างโปรไฟล์โซเชียลมีเดียให้มีความดึงดูดและน่าสนใจมากที่สุด โดยบนโปรไฟล์นั้นควรแสดงเกี่ยวกับข้อมูลของตัวคุณ และรายละเอียดการให้บริการต่าง ๆ อย่างชัดเจน รวมไปถึงบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่คุณใช้งานก็ควรมีข้อมูลเว็บไซต์ที่ใช้ในการแสดงผลงานของคุณด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังควรตรวจสอบถึงหัวข้อที่กำลังมาแรงและแฮชแท็กต่าง ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับงานของคุณอยู่เสมอ เนื่องจากเนื้อหาเหล่านั้นจะเป็นตัวช่วยสร้างโอกาส เพื่อให้คุณสามารถหางานที่เหมาะสมได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้การทำการเชื่อมต่อเนื้อหาเหล่านั้นไปยังโพสต์โซเชียลมีเดียหรือผลงานของคุณ และสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับกลุ่มลูกค้า ก็ถือเป็นหนึ่งในส่วนที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสในการได้รับงานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยครับ
03 เสนอบริการเกี่ยวกับงานแบบสาธารณะและส่วนตัว
เมื่อคุณได้สร้างโปรไฟล์โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ผลงานออกมาได้น่าสนใจแล้ว ต่อไปคือการส่งลิงก์ไปยังเว็บไซต์จัดหางาน เว็บไซต์ส่วนบุคคลต่าง ๆ ไปจนถึงเว็บไซต์ระดับมืออาชีพ โดยที่เว็บไซต์เหล่านี้จะช่วยให้คุณค้นพบงานใหม่ที่ดีได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และเพื่อเพิ่มความแตกต่างและน่าสนใจให้กับตัวเองอีกขั้น คุณอาจทำตามเคล็ดลับและเทคนิคดังต่อไปนี้ได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับวิธีแรก คุณอาจแชร์ผลงานและช่องทางติดต่อไปยังพื้นที่ประกาศหางานแล้ว หลังจากนั้นจึงทำการเขียนข้อความแนะนำตนเองและการทำงานในเบื้องต้น ซึ่งข้อมูลนี้จะทำให้ผู้ที่ต้องการว่าจ้าง สามารถรับรู้เกี่ยวกับตัวคุณได้มากกว่า เมื่อเทียบกันกับการอ่านและดูข้อมูลผลงานทั่วไป
ส่วนอีกหนึ่งวิธีการที่ดี คือ การติดต่อไปสอบถามกับเพื่อนของคุณที่ทำงานในสายอาชีพดังกล่าว เพื่อแนะนำว่าตัวคุณเองได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการนี้แล้ว และมีโอกาสที่ดีสำหรับการทำงานบ้างหรือไม่ โดยอาจกล่าวถึงทักษะและผลงานของคุณเล็กน้อย รวมไปถึงยังควรพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับคน ๆ นั้นด้วยไปพร้อมกัน เนื่องจากการที่ติดต่อกับบุคคลที่คุณมีความคุ้นเคยโดยตรง จะทำให้มีโอกาสในการทำงานในระดับที่สูงมากกว่าตามไปด้วยนั่นเองครับ
04 เชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ กับช่องทางสื่อสารในพื้นที่
หลังจากที่คุณสร้างพื้นที่และเริ่มต้นเชื่อมต่อข้อมูลของคุณสำหรับการหางานในเบื้องต้นแล้ว สิ่งแรกที่จะทำให้คุณมีโอกาสในการหางานได้มากขึ้น คือ การเริ่มต้นติดต่อกับธุรกิจขนาดเล็กภายในชุมชม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับตัวคุณภายในพื้นที่ และหากผลงานของคุณสามารถนำไปใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ คุณก็จะมีชื่อเสียงการทำงานในวงการนั้นมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
ร้านอาหารขนาดเล็กแห่งหนึ่งในชุมชนของคุณมีเว็บไซต์ธุรกิจที่ค่อนข้างล้าสมัย แต่กำลังเริ่มมีการรับออเดอร์ผ่านทางออนไลน์มากขึ้น คุณอาจติดต่อเข้าไปที่ร้านแห่งนั้นผ่านทางผู้จัดการ เพื่อเสนอการออกแบบเว็บไซต์ใหม่ให้กับพวกเขา โดยวิธีหาลูกค้า Freelance UX Designer ในลักษณะนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสการได้งานให้กับคุณได้มากขึ้น ซึ่งคุณอาจกล่าวถึงการพัฒนาที่จะทำให้การสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
หรือหากคุณพบเจอบาร์ที่กำลังจะมีการจัดแสดงสด ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสได้รับประโยชน์จากการพัฒนาแอปฯ เพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ครั้งต่อไป คุณก็อาจเสนอการพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้งานในครั้งต่อไปได้ด้วยนั่นเอง
สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดในการเสนอผลงานของคุณด้วยวิธีนี้ จะเป็นการปรับแต่งเทมเพลตของเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะกับธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเสนอขายผลงานของคุณได้ง่ายมากขึ้น และหลังจากที่คุณได้รับงานมาแล้ว ก็เพียงทำการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อสร้างผลงานให้ออกมาดีที่สุด และเก็บผลงานทุกชิ้นเป็นพอร์ตไว้สำหรับการเสนอขายกับลูกค้ารายอื่นในครั้งต่อ ๆ ไปครับ
Envato Elements โหลดกราฟิก ธีม เทมเพลตไม่อั้นรายเดือน ใช้งาน Free trial ฟรี 7 วัน
โหลดไฟล์ได้ไม่จำกัดทั้งกราฟิก ภาพถ่าย ธีม ปลั๊กอิน เทมเพลต วิดีโอ เสียงเพลง บรัช ฯลฯ
05 มองหาช่องทางสื่อสารและหางานออนไลน์
การเริ่มต้นทำงานในชุมชนขนาดเล็กภายในท้องถิ่น จะทำให้คุณสามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจรอบตัวได้ง่าย โดยที่สิ่งสำคัญในการทำงานลักษณะนี้ คุณจะต้องสร้างความสัมพันธ์กับองค์กร หรือร้านที่คุณทำงานด้วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีโอกาสได้รับงานในระยะยาวมากที่สุด แต่สำหรับการทำงานบนช่องทางออนไลน์นั้น จะมีความกว้างขวางและยุ่งยากมากกว่าพอสมควร แต่ก็จัดว่ามีโอกาสในการหางานที่ยืดหยุ่นมากกว่า
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ออกแบบเฉพาะมากมาย ที่เปิดโอกาสให้เรานำผลงานไปเสนอ เพื่อหาลูกค้าที่ต้องการจ้างงาน Freelance UX Designer มากมาย ซึ่งเราจะแนะนำตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับการหางานฟรีแลนซ์ในวางการ UX ให้คุณได้รู้จักกันในเบื้องต้นดังนี้
- Guru: แพลตฟอร์มระดับมืออาชีพที่มีโอกาสในการทำงานให้กับคุณมากมาย
- Dribble: พื้นที่สำหรับการรับงานกราฟิกฟรีแลนซ์ที่เหมาะสำหรับการหางานรูปแบบสัญญา
- Fiverr: แพลตฟอร์มหางานฟรีแลนซ์มืออาชีพสำหรับคนที่ต้องการทำงานแบบชิ้นเดียวให้เสร็จสิ้น
- Wix: เว็บไซต์หางานฟรีแลนซ์สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการทำเว็บไซต์
- Toptal: พื้นที่หางานฟรีแลนซ์ที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานได้กับกลุ่มลูกค้าทั่วโลก
06 เสนอการทำงานฟรีให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรหรือองค์กรการกุศล
หากคุณต้องการสร้างโอกาสในการทำงานใหม่ ๆ ในช่วงเริ่มต้น คุณอาจลองเสนอบริการฟรีสำหรับลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ เช่น องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรหรือองค์กรการกุศล เพื่อเป็นการสร้างผลงานหรือ Portfolio ให้กับตัวคุณเอง ซึ่งจะช่วยเมื่อคุณมองหางานในอนาคต คุณจะมีทั้งผลงานและประสบการณ์ในการนำไปเสนอให้กับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น และทำให้ความน่าเชื่อถือในการทำงานของคุณเพิ่มขึ้นมาจากเดิมด้วย
ก่อนเริ่มต้นการทำงานการกุศลนั้น คุณควรทำการตกลงรายละเอียดให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของโครงการเหล่านั้นได้อย่างดีที่สุด และทำให้คุณเข้าใจถึงแผนงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการทำงานโปรเจกต์ระยะยาวของคุณ และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงในการทำงานในโครงการฟรี ที่มีสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ค่อนข้างไม่แน่นอนอีกด้วย อย่างไรก็ถามถึงแม้จะมีความเสี่ยงในการทำงาน แต่โครงการลักษณะนี้ก็ยังให้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับตัวคุณเอง, โครงการที่คุณได้ร่วมออกแบบ หรือแม้แต่กลุ่มลูกค้าที่จะตรวจสอบผลงานของคุณในอนาคต
หากคุณต้องการมองหาพื้นที่สำหรับการสร้างผลงานให้กับชุมชนในวงกว้าง หรือองค์กรที่จะทำให้คุณหาลูกค้า Freelance UX Designer ในระดับมืออาชีพได้ง่ายมากขึ้น เราก็อยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับเว็บไซต์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- Catchafire: เว็บไซต์จับคู่งานมืออาชีพให้กับองค์กรไม่แสดงหาผลกำไร ที่กำลังมองหาผู้ที่มีทักษะมาร่วมงาน
- VolunteerMatch: ช่องทางหางานอาสาสมัครที่ต้องใช้ทักษะการทำงานสูง ในการช่วยงานด้านการกุศลต่าง ๆ
คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานสายอาชีพ UX Designer ในอนาคต
เริ่มต้นการเป็นเจ้าของกิจการด้วยตนเอง
เมื่อเริ่มก้าวหน้าในสายงานของตนเอง หลังจากเริ่มประสบความสำเร็จในการทำงานเป็น Freelance UX Designer มาในระยะเวลาหนึ่ง แนะนำให้คุณเริ่มต้นการทำธุรกิจในวงการนี้เป็นของตนเอง และอยากจะแนะนำเทคนิคบางประการและข้อควรระวังบางส่วนให้คุณได้รับรู้ไปพร้อมกัน ตามนี้ครับ
- ระมัดระวังเกี่ยวกับการแชร์แนวคิดการออกแบบของคุณบนช่องทางออนไลน์: การคัดลอกผลงานถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างบ่อยครั้ง ดังนั้น เพื่อป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้น คุณจึงควรมีการออกแบบตราสัญลักษณ์หรือลายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำผลงานของคุณไปแอบอ้างใช้งาน
- สอบถามลูกค้าก่อนการนำโพสต์งานไปใช้งานต่อ: คุณไม่ควรโพสต์ตัวอย่างงานออกแบบที่ยังไม่เสร็จสิ้นไปบนช่องทางออนไลน์ เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตจากลูกค้าแล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่มักจะไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นผลงานที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำ เนื่องจากอาจมีผลในเชิงการตลาดนั่นเอง
- อัปเดตงานของคุณกับลูกค้าอยู่เสมอ: หากคุณรู้สึกว่าการทำงานเริ่มมีการติดขัด หรือจะต้องใช้ระยะเวลาเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ ควรติดต่อกับลูกค้าเพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเหตุผลที่ฟังดูเป็นไปได้ เพื่อทำการเปลี่ยนขอบเขตการทำงานของโครงการ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้สำหรับการทำงานในลักษณะนี้
- มองหางานใหม่อยู่เสมอ: คุณควรสละเวลาทุกสัปดาห์ เพื่อโพสต์หรือมองหาโอกาสกับลูกค้าใหม่ ๆ บนช่องทางออนไลน์อยู่เสมอ เนื่องจากเป็นช่องทางในการขยายธุรกิจ และรักษาความนิยมไว้ได้เป็นอย่างดี
- ติดต่อกับลูกค้าเก่าอยู่เสมอ: หนึ่งในสิ่งที่สำคัญคือการติดต่อกับลูกค้าเก่า เพื่อมองหาโอกาสการทำงานที่คนกลุ่มนี้อาจมีให้กับคุณ เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอน ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะมีความต้องการงานออกแบบ UX ใหม่ ๆ ในอนาคตหรือไม่ ที่สำคัญคุณยังควรกล่าวถึงความพร้อมในการทำงาน ในทุกโอกาสที่คุณสามารถแนะนำได้ รวมไปถึงยังควรติดต่อเพื่อแนะนำในทุกช่วงเวลาอย่างสม่ำเสมอตามโอกาสต่าง ๆ อีกด้วย
- คำนึงถึงคุณค่าในธุรกิจและผลงานของคุณอยู่เสมอ: อาจเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธการขอการทำงานฟรีจากเพื่อนหรือครอบครัว เมื่อคุณได้เริ่มต้นธุรกิจของตนเอง ดังนั้น คุณจึงควรมั่นใจไว้เสมอว่าผลงานของคุณนั้นมีค่า และไม่ควรให้ผลงานฟรีกับใครได้ง่าย ๆ
บทสรุป
การหาลูกค้า Freelance UX Designer ในปัจจุบัน ทั้งสำหรับมือใหม่และมืออาชีพนั้น ถึงแม้จะเริ่มมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่น่าสนใจมากมายให้คุณได้ลองค้นหาและสร้างอาชีพเป็นของตนเอง ซึ่งวิธีการที่น่าสนใจและส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เราก็ได้ทำการแนะนำไว้ให้กับคุณเรียบร้อยแล้วในบทความนี้ ดังนั้น หากคุณได้ลองทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทความนี้อย่างละเอียด ก็น่าจะสามารถสร้างอาชีพที่มั่นคง สำหรับการทำงานต่อเนื่องในสายอาชีพ UX Designer ของคุณได้อย่างแน่นอนครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 5 โปรแกรมออกแบบ UX/UI ที่สาย UX UI และ Web Designer ต้องมี
- ชวนไปงาน Job fair ออนไลน์ Tech level up หางานด้าน Data และ UX UI
- 6 เว็บไซต์รวมหนังสือ UX UI ฟรี! สำหรับดีไซน์เนอร์
- 4 UX Tools ที่ทำให้ Conversion Rate สูงขึ้น
- Information architecture (IA) คืออะไร? อยากเป็น UX Designer ต้องรู้
Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา