สำหรับคนที่ชื่นชอบการแต่งภาพเพื่อนำไปใช้งานบนโซเชียลมีเดีย หรือเพื่อนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ Adobe Lightroom จะต้องเป็นหนึ่งในชื่อของซอฟต์แวร์ ที่เคยได้ยินมาบ้างอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อนทั้งบนเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต
บทความของเราในวันนี้จะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับโปรแกรมของ Adobe ตัวนี้มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการใช้งานในภาพรวม ไปจนถึงข้อดีที่ทำให้โปรแกรมตัวนี้มีความน่าสนใจสำหรับการใช้งานของคนทุกกลุ่ม และเพื่อให้คนที่สมัครสมาชิกใช้งานแพ็กเกจ Adobe Creative Cloud สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งหากคุณเองก็เป็นคนที่กำลังต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ตัวนี้ การลองอ่านบทความของเราจนจบ ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่เสียเวลาคุณเลยแม้แต่น้อย
Adobe จาก 2,020.16 เหลือเพียง 1,143.83 บาท/เดือน
• All apps สำหรับปีแรก รับแอป 20 รายการของ Creative Cloud เพียง ฿1,143.83/เดือน (ในปีแรก)
• นักเรียนนักศึกษาและครู ราคา ฿762/เดือน
• ซื้อ Adobe ใช้งาน Adobe Stock ฟรี 1 เดือน โหลดรูปถ่ายฟรี 10 รูป
- ใช้งานร่วมกันกับ Adobe Creative Cloud
- ระบบค้นหารูปภาพและ asset ด้วย AI
- มีแพคเกจให้สมัครสมาชิกหลากหลาย
- รูปภาพคุณภาพสูง
- ใช้งานแบบ Free trial โหลดรูปฟรีได้สูงสุด 40 รูปภาพ
- ภาพแปลกใหม่ ไม่โหล ไม่ซ้ำ
- รูปภาพแบบ Premium มีราคาสูง
- ไม่คุ้มหากใช้งานกับฟรีแลนซ์หรือทีมขนาดเล็ก เหมาะสำหรับองค์กรและทีมขนาดใหญ่
- บริการ Customer support ยังไม่ดีเท่าที่ควร
Adobe Lightroom คืออะไร?
Adobe Lightroom เป็นโปรแกรมแก้ไขรูปภาพจากทาง Adobe ที่เน้นการใช้เพื่อแก้ไขภาพจากต้นฉบับเป็นหลัก ซึ่งโดยภาพรวมของการใช้งาน จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่ง, จัดระเบียบ, แก้ไข, พิมพ์ และแบ่งปันภาพได้อย่างง่ายดายในโปรแกรมเดียว โดยนอกจากการแก้ไขภาพแล้ว ตัวแอปฯ ยังรองรับการแก้ไขไฟล์ประเภทต่าง ๆ อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไฟล์สกุล JPG, TIFF, DNG, PSD, CMYK, PNG หรือแม้แต่ไฟล์วิดีโอ ซึ่งใช้งานได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชัน
ในปัจจุบัน Adobe ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนี้ ให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงมากยิ่งขึ้น ทำให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน จึงเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากการเลือกใช้งานระบบ ที่มีการขับเคลื่อนด้วย AI ในการปรับแต่งภาพ ทั้งภาพบุคคลจนถึงภาพวิวทิวทัศน์และวัตถุต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายโดยใช้ทรัพยากรของเครื่องที่ค่อนข้างต่ำกว่าซอฟต์แวร์ปรับแต่งภาพทั่วไปอีกด้วย
ข้อดีของ Adobe Lightroom
1. อินเตอร์เฟซที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย
สิ่งที่นักพัฒนาของทาง Adobe ให้ความสำคัญมากที่สุด ในการออกแบบและพัฒนา Adobe Lightroom คือ การทำให้อินเตอร์เฟซและเครื่องมือต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ง่ายดายและสะดวกสบายมากที่สุด ซึ่งจะต้องทำให้ผู้เริ่มต้นใช้งานซอฟต์แวร์ทำความเข้าใจและใช้งานได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรก โดยที่สิ่งนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแบ่งแยกเครื่องมือต่าง ๆ อย่างเป็นระบบดังที่เราได้พบเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
สำหรับเครื่องมือในการใช้งานของซอฟต์แวร์ตัวนี้ เรียกว่าเป็นโมดูลการทำงานที่มีการแบ่งแยกออกมาได้หลายส่วน ประกอบด้วย Basic, Histogram, Tone Curve, HSL/Color/B&W, Split Toning, Lens Correction และ Effects ที่จะมีแยกส่วนประกอบหรือเครื่องมือต่าง ๆ ภายใน ทำให้เราสามารถใช้งานและทำความเข้าใจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
2. Preset ที่ช่วยให้การแก้ไขรูปภาพสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
หนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของ Lightroom คือ การที่คุณจะสามารถแก้ไขภาพต้นฉบับ ในด้านของสี, ความสว่าง และองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการตั้งค่าเป็น Preset ไว้ตั้งแต่เริ่มต้น โดย Preset ที่คุณสามารถใช้งานได้นั้นจะเลือกใช้งานได้ทันที และบันทึกค่าได้ทั้งการกำหนดค่า Preset ขึ้นมาเอง และดาวน์โหลดแบบสำเร็จรูปบนเว็บไซต์ ซึ่งภาพรวมของการใช้งานจึงง่ายและรวดเร็วอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการปรับแต่งภาพในคลิกเดียว และนำไปอัปโหลดได้ในทันทีที่ต้องการ
แจกฟรี 10 Lightroom Presets แต่งภาพสถานที่และอาหาร
3. Raw Profiles สำหรับการแก้ไขภาพถ่ายเชิงลึก
ไฟล์ภาพแบบ RAW หรือภาพแบบต้นฉบับ เป็นลักษณะของรูปภาพที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายมากที่สุด เนื่องจากเป็นรูปภาพที่ออกมาจากกล้องโดยตรง ทำให้ทั้งองค์ประกอบของภาพ, สี, ความสว่าง ไปจนถึงเรื่องอื่น ๆ ล้วนปรับเปลี่ยนได้ด้วยกันทั้งสิ้น โดยที่ฟีเจอร์แก้ไขภาพของ Lightroom ในส่วนนี้ จะถูกติดตั้งมาให้ในการแก้ไขทั่วไป และมีโหมดการใช้งานให้คุณเลือกใช้ได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ ประกอบด้วย โหมด RAW และ Creative ซึ่งรูปแบบแรกจะถูกออกแบบมาสำหรับการใช้ปรับแต่งภาพ Adobe Raw และ Camera Matching เป็นหลัก ในขณะที่แบบ Creative นั้นจะใช้ในการปรับแต่งภาพแบบ Legacy, Artistic, B&W, Vintage และ Modern โดยที่การใช้งานฟีเจอร์ตัวนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับแก้ไขภาพตามความเหมาะสมอย่างละเอียดและลึกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
4. ฟีเจอร์ Enhance Details สำหรับปรับแต่งภาพที่ละเอียดอ่อน
Enhance Details เป็นฟีเจอร์ที่เพิ่งถูกพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นานนัก โดยจะเน้นไปที่การปรับแต่งภาพที่มีส่วนซ้อนกันในการแก้ไข ทำให้เหมาะสำหรับใช้เพื่อแก้ไขภาพที่มีรายละเอียดเชิงลึกหรือซับซ้อนมากเป็นพิเศษ และจากความสามารถในการทำงานในลักษณะนี้ ทำให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายและตอบโจทย์การแก้ไขภาพลักษณะต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการแก้ไขในส่วนพื้นหลังอย่างป่าหรือท้องฟ้า สำหรับการใช้งานฟีเจอร์นี้ จะทำให้มีไฟล์ DNG ใหม่ถูกสร้างขึ้นในภาพ ส่งผลให้ค่อนข้างใช้ระยเวลาในการประมวลผลที่นานพอสมควร
ราคาของ Adobe Lightroom
1 เลือกใช้งานเฉพาะ Lightroom
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม | อัตราค่าบริการ |
พื้นที่เก็บข้อมูล 1 TB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการแบบรายปีแต่ชำระเงินแบบรายเดือนราคา 380.92 บาทต่อเดือน |
พื้นที่เก็บข้อมูล 1 TB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการและชำระเงินแบบรายปีราคา 4,571.04 บาทต่อปี |
2 เลือกใช้งานเฉพาะ Lightroom คู่กับ Photoshop
ตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 20 GB
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม | อัตราค่าบริการ |
พื้นที่เก็บข้อมูล 20 GB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการแบบรายปีแต่ชำระเงินแบบรายเดือนราคา 380.92 บาทต่อเดือน |
พื้นที่เก็บข้อมูล 20 GB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการและชำระเงินแบบรายปีราคา 4,571.04 บาทต่อปี |
ตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 1 TB
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม | อัตราค่าบริการ |
พื้นที่เก็บข้อมูล 1 TB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการแบบรายปีแต่ชำระเงินแบบรายเดือนราคา 761.84 บาทต่อเดือน |
พื้นที่เก็บข้อมูล 1 TB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการและชำระเงินแบบรายปีราคา 9,142.08 บาทต่อปี |
3 เลือกใช้งานแพ็คเกจ Adobe Creative Cloud
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม | อัตราค่าบริการ |
โปรแกรมทั้งหมดของ Adobe, พื้นที่เก็บข้อมูล 100 GB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Express, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการและชำระเงินแบบรายเดือนราคา 3,031.31 บาทต่อเดือน |
โปรแกรมทั้งหมดของ Adobe, พื้นที่เก็บข้อมูล 100 GB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Express, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการแบบรายปีแต่ชำระเงินแบบรายเดือนราคา 1,143.83 บาทต่อเดือน (ส่วนลด 40%) |
โปรแกรมทั้งหมดของ Adobe, พื้นที่เก็บข้อมูล 100 GB, บทเรียนช่วยสอนการใช้งาน, Adobe Express, Adobe Portfolio, Adobe Fonts, Behance, Creative Cloud Libraries และสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุด | ใช้บริการและชำระเงินแบบรายปีราคา 13,725.96 บาทต่อปี (ส่วนลด 40%) |
Lightroom คืออะไรและเหมาะสำหรับใคร
Adobe Lightroom คือ โปรแกรมปรับแต่งภาพสำเร็จรูป ที่เหมาะทั้งสำหรับการใช้งานของมือใหม่และมืออาชีพ ด้วยเครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมด ที่ให้คุณสามารถใช้แก้ไขภาพได้อย่างครบถ้วนบนเดสก์ท็อป ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขภาพถ่ายได้ง่าย ด้วยการควบคุมและสั่งการเครื่องมือที่ง่ายและสะดวกสบาย ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์สำหรับการตั้งค่าการปรับแต่งสำเร็จรูป ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันให้กับผู้ใช้งานรายอื่นได้ด้วยเช่นกัน
Lightroom บน PC และ Mac ทำงานเหมือนกันหรือไม่
Lightroom ที่ทำงานบนเดสก์ท็อปจะมีคุณสมบัติเดียวกัน และให้ผลลัพธ์ในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นภายใต้ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ Mac ก็ตาม ทั้งเรื่องของการจัดระเบียบรูปภาพ, การแก้ไข และการแชร์ไฟล์ภาพไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ จะให้คุณสามารถทำการซิงค์ข้อมูลในการปรับแต่งร่วมกันได้ ช่วยให้สามารถเข้าถึงและแก้ไขภาพระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย
สามารถเข้าถึงภาพหลังจากหมดอายุการสมัครสมาชิก Lightroom ได้หรือไม่
Lightroom บนเดสก์ท็อปจะยังคงอนุญาตให้สามารถเข้าถึงไฟล์ที่ทำการแก้ไขได้ หลังจากที่การสมัครสมาชิกการใช้งานหมดอายุลง แต่ส่วนการปรับแต่งต่าง ๆ จะถูกปิดใช้งาน และอีกหนึ่งส่วนที่จะถูกปิดการทำงานโดยสิ้นเชิง ก็ยังรวมถึงการซิงค์ข้อมูลที่แก้ไขระหว่างอุปกรณ์อีกด้วย
Lightroom แตกต่างจาก Photoshop อย่างไร
Lightroom จะมีเครื่องมือที่ถูกออกแบบมา สำหรับการใช้เพื่อแก้ไขรูปภาพอย่างง่าย ช่วยให้การแก้ไขรูปภาพจึงสามารถทำได้สะดวก และสามารถแชร์ภาพที่ปรับแต่งเสร็จแล้วออกมาได้ง่าย ส่งผลให้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการทำงานที่เน้นความรวดเร็วมากเป็นพิเศา ในขณะที่ Photoshop จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดต่อภาพ ด้วยส่วนประกอบที่เป็นเครื่องมือขั้นสูงมากกว่า ดังนั้น จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับช่างภาพ, นักออกแบบกราฟิก และผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบอื่น ๆ
บทสรุป
หากคุณต้องการให้การปรับแต่งรูปภาพ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายดายในทุกวัน ด้วยเครื่องมือที่ไม่ซับซ้อนและเครื่องมือที่ไม่ยุ่งยากมากจนเกินไป Adobe Lightroom จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับคุณ จากจุดเด่นของการใช้งานและเรื่องต่าง ๆ ตามที่เราได้แนะนำไปในบทความนี้ และหากคุณกำลังมองหาส่วนลดพิเศษในการเริ่มต้นใช้งาน เราก็ได้มีไว้ให้คุณผ่านทางลิงก์ใช้งานซอฟต์แวร์ของเรา ที่กระจายอยู่ในบทความด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- แจกฟรี 10 Lightroom Presets แต่งภาพสถานที่และอาหาร
- รีวิว Adobe Stock แบบเจาะลึก เปรียบเทียบแพคที่คุ้มค่าสุดให้ที่นี่
- เจาะลึก 14 โปรแกรม Adobe creative cloud คุ้มไม่คุ้มมาดูกัน
- ส่วนลด Adobe Creative Cloud ลดราคา 20 – 70% แห่งปี
- รีวิว Adobe Premiere Pro โปรแกรมตัดต่อที่ดีที่สุด ฟีเจอร์เด็ดๆเพียบ
Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา