UX Proposal แนวทางในการเสนองาน User Experience ในปี 2023

Siranat

ในการวางแผนการทำงาน User Experience เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ อาจเป็นปัญหากับหลาย ๆ คนได้อยู่พอสมควร เนื่องจากไม่รู้ว่าควรจะอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้กับลูกค้าเข้าใจได้อย่างไร ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามาแนะนำวิธีการนำเสนอข้อมูลการออกแบบ User Experience จะเป็นการสร้างและเขียน UX Proposal ซึ่งเป็นแนวทางในการนำเสนองานออกแบบของคุณให้น่าสนใจ เพื่อให้คุณได้เรียนรู้ไปพร้อมกันในวันนี้ และนำไปสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งการเขียน Proposal นั้น จะมีขั้นตอนหรือวิธีการใดบ้าง ไปติดตามกันได้เลยครับ


UX Proposal คืออะไร?

UX proposal

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่เริ่มต้นการทำงานแบบมือใหม่ หรือเป็นผู้ที่ทำงานในสายงานนักออกแบบ UX ในระดับมืออาชีพ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ UX Proposal ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อการทำงาน

Proposal ของการออกแบบ UX ก็คือการวางโครงร่างหรือแผนงานในการทำงาน ให้สามารถเข้าใจได้ในรูปแบบลายลักษณ์อักษร ซึ่งจะเน้นไปที่การอธิบายเกี่ยวกับปัญหา, แนวทางในการแก้ไขของสิ่งที่เกิดขึ้น ไปจนถึงรูปแบบของเครื่องมือ และกลยุทธ์ที่จะใช้ในการทำงาน หมายความว่าโดยพื้นฐานแล้ว Proposal ก็คือส่วนสรุปเกี่ยวกับการทำงาน ที่จะมีการอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนและทุกสิ่งไว้อย่างชัดเจนนั่นเอง

สำหรับสิ่งที่ตัว Proposal ควรจะต้องอธิบายได้นั้น จะเป็นลักษณะของคำตอบจากคำถามของการทำงาน ที่จะต้องถูกตั้งขึ้นในช่วงแรกเริ่มของการวางแผนการออกแบบ ยกตัวอย่างเช่น

  • วัตถุประสงค์หลักในการจัดการโครงการนี้คืออะไร?
  • ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคืออะไร?
  • วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น?
  • แผนการดำเนินงานควรจะเป็นในลักษณะใด?
  • วิธีการที่จะใช้และเครื่องมือในการแก้ไขประกอบด้วยอะไรบ้าง?
  • งบประมาณที่จะใช้ในการทำ Research ทางด้าน UX ด้วยวิธีการต่างๆ ราคาเท่าใด?

ทำไมการเขียน UX Proposal ถึงมีความจำเป็นในการทำงาน

UX proposal ทำไมถึงสำคัญ

การเขียน Proposal ให้ชัดเจนก่อนการเริ่มต้นทำงาน UX ทุกโครงการนั้น มีประโยชน์มากมายต่อการทำงานของทุกคนในทีม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้ออกแบบ, ผู้ลงมือปฏิบัติ หรือแม้แต่เจ้าของโครงการและลูกค้าเองก็ตาม เนื่องจากจะทำให้ทุกคนได้เข้าใจปัญหาไปในทิศทางเดียวกัน และมีเอกสารสำหรับการอ้างอิงในการทำงาน ซึ่งสามารถนำกลับมาอ่านทบทวนซ้ำได้ ว่าการแก้ไขหรือทำงานเกี่ยวกับ UX ของเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมต่าง ๆ ถูกดำเนินไปอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบหรือไม่ รวมไปถึงการวาง Proposal ไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ยังทำให้คุณสามารถกำหนดขอบเขตของการทำงานได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม การกำหนด Proposal ของงานออกแบบหรือแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ UX อาจไม่ได้ช่วยคำนวณต้นทุนในการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน แต่ก็ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการทำงาน ในกรณีที่คุณจะต้องเสนอหรือพูดคุยเกี่ยวกับการดำเนินงานของคุณกับลูกค้า การมีเอกสารชัดเจนจะช่วยให้การสื่อสารเข้าใจกันได้ง่ายมากขึ้น

สำหรับในด้านของการนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้า การเขียน Proposal จะมีส่วนช่วยในเรื่องต่าง ๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น:

  • ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าจะได้รับผลลัพธ์ได้บ้างในการดำเนินงานของคุณ
  • ช่วยให้คุณมีจุดเด่นที่มากกว่าเมื่อเทียบกับผู้เสนอโครงการออกแบบที่ไม่มีเอกสาร
  • ช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนการตรวจสอบงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
  • แสดงความเป็นมืออาชีพให้กับลูกค้า
  • ช่วยให้ลูกค้ามองเห็นข้อมูลเชิงลึกได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ลูกค้าประเมินค่าใช้จ่ายในการทำงานด้าน UX ในแต่ละส่วนได้

แนะนำเว็บไซต์ Creative market จำหน่ายเทมเพลตสำหรับทำงานนำเสนอด้าน Proposal พร้อมตัวอย่างเนื้อหา


วิธีการเขียนและเสนอ UX Proposal ให้กับลูกค้า

01 การรวบรวมข้อมูลและพูดคุยกับลูกค้า

UX proposal 01 การรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ
01 การรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ

สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำในการวางแผนและเขียน UX Proposal ให้กับลูกค้าของคุณ คือ การเตรียมข้อมูลและรวบรวมเรื่องสำคัญในการอธิบายถึงปัญหาตั้งแต่ต้น ซึ่งจะช่วยให้คุณอธิบายหัวข้อต่าง ๆ ระหว่างการสื่อสารหรือพูดคุยกับลูกค้าในครั้งแรกได้อย่างเข้าใจ แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และช่วยให้คุณเตรียมการเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกด้วย

ในการพูดคุยและรวบรวมข้อมูลจากลูกค้านั้น สามารถทำได้ทั้งในลักษณะของการจัดประชุม เพื่อทำการพูดคุยกันแบบออนไลน์หรือพบเจอกันโดยตรง ขึ้นอยู่กับความสะดวกในแต่ละสถานการณ์ ในระหว่างที่พูดคุยกันก็เพียงจดบันทึกและทำความเข้าใจมุมมองที่ถูกต้องจากลูกค้า ซึ่งจะต้องแน่ใจว่าลูกค้ามีความเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาด้านการออกแบบ UX ที่เกี่ยวข้อง

02 กำหนดปัญหา

ในขั้นตอนนี้สิ่งที่คุณจะต้องทำในการทำ Proposal คือ การนำข้อมูลที่คุณได้รวบรวมและพูดคุยกับลูกค้าทั้งหมดมาประมวลผล และทำการกำหนดปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามีเรื่องอะไรหรือมีสาเหตุจากอะไรบ้าง ซึ่งหากคุณได้ทำการพูดคุยและทำความเข้าใจมุมมองของลูกค้าอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถกำหนดปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงกับความต้องการ ส่วนคำถามที่คุณจะสามารถนำมาเป็นตัวกำหนดปัญหาได้ตั้งแต่เริ่มต้นนั้น จะประกอบด้วย

  • ปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบเจอคือเรื่องอะไร?
  • สาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าวคืออะไร?
  • ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากปัญหานี้?

เมื่อกำหนดปัญหาแล้ว อาจคุยกับลูกค้าให้แน่ใจว่าปัญหาดังกล่าวคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการแก้ไขถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้เข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย

03 การตั้งและจัดลำดับความสำคัญของวัตถุประสงค์ในการทำงาน

UX proposal 03 จัดลำดับความสำคัญในการทำงาน
03 จัดลำดับความสำคัญในการทำงาน

เมื่อได้ทำการกำหนดปัญหาเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคุณจะต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าการแก้ไขปัญหาหรือการออกแบบของคุณ มีขั้นตอนในการทำงานลำดับต่อไปเป็นอย่างไร ด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ และทำการจัดลำดับความสำคัญ โดยสิ่งที่คุณจะต้องคำนึงถึงในขั้นตอนนี้ จะประกอบด้วย

  • วิธีการนำเสนอวัตถุประสงค์ให้ลูกค้าสามารถเข้าใจได้
  • ผลลัพธ์ที่จะได้ตามความคาดหวังของลูกค้า
  • ประโยชน์ของการทำตามขั้นตอนและวิธีการแก้ไข

ในการเขียนหรือวางแผนวัตถุประสงค์อย่างเป็นระบบ สามารถกำหนดวัตถุประสงค์หลักและวัตถุประสงค์ย่อยของโครงการ ซึ่งจะเป็นส่วนในการสนับสนุนการแก้ไขตามวัตถุประสงค์หลักทั้งหมด โดยสิ่งนี้จะทำให้การจัดลำดับการทำงานสามารถทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้การอธิบายกับลูกค้าของคุณ จะมีความเข้าใจได้ง่ายตามไปด้วยในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณจะเขียนลงไป ควรใช้คำศัพท์ที่เข้าใจง่าย และแสดงถึงวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน ไม่ใช้คำศัพท์เฉพาะหรือศัพท์ทางเทคนิคมากจนเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดความสับสน หรือความลำบากในการโน้มน้าวใจลูกค้านั่นเอง

04 การให้ข้อมูลกับลูกค้า

เมื่อทำการกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ และประมาณการถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว คุณจะต้องแยกย่อยข้อมูลให้เล็กลง เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาของคุณได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการเขียนแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ และการแนะนำเป้าหมายย่อย เพื่อให้เข้าใจถึงความสำเร็จอย่างเป็นขั้นตอน

สิ่งที่ต้องคำนึงเอาไว้เสมอคือลูกค้าคาดหวังอะไรระหว่างที่กำลังดำเนินงาน ลูกค้าควรจะรับรู้ข้อมูลเชิงลึกเรื่องใดบ้าง ที่จะทำให้เข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไข และคำนึงถึงความคุ้มค่ากับราคาที่คุณเสนอไป ที่สำคัญคุณควรให้ข้อมูลอย่างดีที่สุด ซึ่งอาจใช้การแนบเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบ หรือยกตัวอย่างผลงานในอดีต เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

05 การวางแผนระยะเวลาและกำหนดขั้นตอน

UX proposal 05 วางแผนกำหนดขั้นตอน
05 วางแผนกำหนดขั้นตอน

ปัญหาหลักที่นักออกแบบ UX มักจะพบเจอในการวาง UX Proposal คือ แรงกดดันจากลูกค้าที่ต้องการให้โครงการเสร็จรวดเร็วที่สุด ซึ่งหากไม่ได้มีการกำหนดเวลาในการทำงานอย่างชัดเจน คุณควรวางแผนการทำงานและอธิบายเกี่ยวกับระยะเวลาของแต่ละขั้นตอนให้กับลูกค้าได้เข้าใจ โดยจะต้องกล่าวถึงขอบเขตของเวลาให้รวบรัดที่สุด และกำหนดวันเสร็จสิ้นของโครรงการให้ได้ตั้งแต่ช่วงแรก รวมไปถึงในส่วนนี้คุณยังอาจใช้การกำหนดไทม์ไลน์การทำงานที่ชัดเจน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และให้สามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์ตามช่วงเวลาได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน

06 การวางแผนงบประมาณ

การสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องการเงินนับเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากอย่างมากสำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในการพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณจะต้องสื่อสารอย่างถูกต้อง โดยวิธีการที่ดีในการแนะนำเกี่ยวกับค่าบริการนั้น สามารถทำได้ด้วยการแยกย่อยราคาของแต่ละรายการ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นว่าเงินแต่ละส่วนจะถูกใช้ไปกับการดำเนินงานในส่วนใดบ้าง

ควรหลีกเลี่ยงการบอกราคาโดยรวมตั้งแต่เบื้องต้น เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแพงจนเกินไป เพราะยังไม่รับรู้เกี่ยวกับรายละเอียดในการทำงาน นอกจากนี้ยังอาจใช้เทคนิคในการนำเสนอวิธีการแก้ไขมากกว่าหนึ่งรายการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำมาเปรียบเทียบได้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วลูกค้ามักจะยอมรับข้อเสนอได้ง่ายมากขึ้นในกรณีที่มีข้อเสนอมาให้สามารถเปรียบเทียบนั่นเอง

07 สรุปผลลัพธ์ในการส่งมอบงานให้กับลูกค้า

UX proposal 07 สรุปผลลัพธ์ให้กับลูกค้า
07 สรุปผลลัพธ์ให้กับลูกค้า

หลังจากที่ได้พูดคุยกันอย่างชัดเจนแล้ว คุณจำเป็นจะต้องสรุปข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ลูกค้าทราบว่าจะได้รับการบริการเรื่องใดบ้าง และจะมีค่าใช้จ่ายรวมกับระยะเวลาในการดำเนินงานระดับใด อีกทั้งในการสรุปข้อมูลส่วนนี้ คุณอาจเน้นย้ำความน่าสนใจในการบริการมากยิ่งขึ้น ด้วยการกล่าวถึงประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการแก้ไขของคุณได้ด้วยเช่นกัน

08 การตรวจสอบความถูกต้อง

สุดท้ายเพื่อให้การทำงานของคุณมีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด คุณจะต้องแน่ใจเสมอว่าสิ่งที่ถูกเขียนใน UX Proposal จะต้องเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างถูกต้องและแม่นนำ โดยไม่มีข้อบกพร่องก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ในขั้นตอนที่คุณจะต้องส่งมอบเป็นเอกสารให้กับลูกค้า สำหรับเรื่องที่คุณจะต้องตรวจสอบนั้นจะมีทั้งความถูกต้องของภาษา และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขและการดำเนินงาน รวมไปถึงยังควรทำสำเนาเอกสาร เพื่อให้มั่นใจได้ทั้ง 2 ฝ่ายด้วยครับ


บทสรุป

หลังจากที่ได้อ่านบทความของเราไปจนจบ คุณก็น่าจะได้รับรู้เกี่ยวกับความสำคัญ และขั้นตอนในการเขียน UX Proposal ขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งหากคุณเป็นคนที่กำลังมีความจำเป็น ที่จะต้องเสนองานออกแบบ UX ให้กับลูกค้า สิ่งต่าง ๆ ที่ได้อ่านไปก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นการเรียนรู้บทความของเรา และนำไปใช้ในการทำงานจริง ก็น่าจะช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับคุณขึ้นมาได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง

Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา