8 วิธีหางานฟรีแลนซ์ UX UI เตรียมพร้อมสร้างรายได้เสริม
การเป็นนักออกแบบฟรีแลนซ์ UX UI นั้น เป็นงานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้จากทุกสถานที่ หากคุณสามารถกำหนดตารางการทำงานของตนเองได้อย่างครอบคลุม แต่ด้วยการที่ตัวงานค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่ในปัจจุบัน ก็อาจทำให้ได้รับความท้าทายทั้งในการทำงาน และการหางานให้กับตนเองซึ่งมีความยากพอสมควรด้วยเช่นกัน
สำหรับบทความในวันนี้จะเป็นการแนะนำวิธีเตรียมพร้อมหางานสำหรับฟรีแลนซ์ UX UI เพื่อให้คนที่กำลังมองหางานใหม่ สามารถพบเจอกับงานที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราสามารถแบ่งวิธีการเหล่านั้นออกมาได้เป็น 8 ข้อ ที่สำคัญสำหรับการมองหางานที่ดี ดังนั้น หากคุณได้เตรียมความพร้อมตามหัวข้อต่าง ๆ เหล่านี้ ก็จะทำให้คุณมั่นใจว่าจะหางานที่เหมาะกับคุณที่สุดได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
8 วิธีเตรียมพร้อมหางานฟรีแลนซ์ UX UI
ต่อไปเป็น 8 วิธีการง่าย ๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่เลือกใช้ในการหางานฟรีแลนซ์ UX UI หมายความว่าหากคุณกำลังมองหางานในสายอาชีพนี้ วิธีดังกล่าวในแต่ละหัวข้อ ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการหางานของคุณไม่น้อยเลยทีเดียว
01 เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ
เมื่อคุณเริ่มต้นทำงานฟรีแลนซ์เกี่ยวกับการออกแบบ UX UI อาจรู้สึกกังวลหรือคิดว่าการหางานเป็นสิ่งที่อาจทำได้ยาก การเริ่มต้นหางานจากจุดเล็ก ๆ อย่างการเป็นอาสาสมัครขององค์กรไม่แสวงผลกำไร, งานการกุศล หรือเริ่มทำงานกับธุรกิจขนาดเล็ก และรับงานจากเหล่าคนรู้จักหรือเพื่อนของคุณ ก็เป็นวิธีการที่ดีที่จะช่วยให้คุณหางานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากคุณจะสามารถใช้เทคนิคที่มีอยู่ได้อย่างมั่นใจ และสร้างความสัมพันธ์คอนเนคชั่นกับคนกลุ่มนี้หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในสายงานได้มากขึ้น แม้ว่าผลตอบแทนที่คุณอาจได้รับอาจจะต่ำได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนะครับ แต่ในอนาคตคุณสามารถนำผลงานเหล่านี้ไปใส่ไว้ในพอร์ตฟอลิโอเพื่อเป็นกรณีศึกษา สำหรับการหางานในครั้งถัดไปได้ด้วยเช่นกัน
02 ค้นหาช่องทางในการหางาน
เริ่มอาชีพในสายงานออกแบบ UX UI เพื่อที่จะเพิ่มคอนเนคชั่นรวมไปถึงรายชื่อของกลุ่มลูกค้าของเราให้มากขึ้น การมีสถานที่หรือช่องทางสำหรับการหางานแบบเป็นหลักแหล่งในช่วงเริ่มต้นเป็นวิธีการที่ดีอย่างมาก เพราะจะทำให้กลุ่มลูกค้าของคุณสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าจะติดต่อเรื่องงานกับคุณได้จากช่องทางไหน
ซึ่งอาจเป็นช่องทางออนไลน์ หรือพื้นที่ที่คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ แต่ควรจะอยู่ในสายงานหรืออุตสาหกรรมที่ตรงกันกับงานที่คุณต้องการ และเมื่อคุณเริ่มมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับงาน UX UI คุณก็จะสามารถนำเสนอเกี่ยวกับตัวเองในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์หรือเชี่ยวชาญได้ ส่งผลให้การหางานที่มีความเฉพาะ คุณจะมีโอกาสได้รับงานมากกว่าตามไปด้วยนั่นเอง
ระหว่างที่คุณเริ่มต้นทำงานในช่วง 2 ถึง 3 เดือนแรก คุณจะสามารถสังเกตได้แล้วว่า งานแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกันในลักษณะใด และคุณชื่นชอบการทำงานในส่วนไหนหรือมีความตื่นเต้นกับลักษณะงานประเภทใดมากที่สุด ซึ่งส่วนนี้ก็จะทำให้คุณมีโอกาส ค้นพบงานในด้านที่เหมาะสมสำหรับคุณในอนาคตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นตามไปด้วย
03 จัดรูปแบบพอร์ตฟอลิโอผลงานของคุณให้เป็นกรณีศึกษา
การจัดรูปแบบผลงานหรือพอร์ตฟอลิโอของคุณ ให้เป็นลักษณะของกรณีศึกษา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเตรียมพร้อมหางานฟรีแลนซ์ UX UI ที่ดีและมีประโยชน์ด้วยเช่นกัน ด้วยสาเหตุสำคัญในหลากหลายประการ ประการแรก คือ การทำให้ลูกค้าสามารถเห็นกระบวนการทำงาน, ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะทางเทคนิคของคุณได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนประการที่ 2 เป็นการแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการทำงานของคุณเป็นอย่างไร และมีความถี่ในการทำงานมากเท่าใด ซึ่งในกรณีนี้หากคุณเลือกนำเสนอเพียงขั้นตอนสุดท้าย หรือผลลัพธ์ของการทำงานเพียงเท่านั้น ก็อาจทำให้คุณไม่มีโอกาสมากพอที่จะอธิบายถึงการออกแบบและการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ ของคุณได้อย่างชัดเจนมากนักนั่นเอง
สำหรับสิ่งที่คุณควรแสดงไว้ใน Portfolio นั้น จะประกอบด้วย
- ชื่อ
- ภาพรวม Project
- คำชี้แจงเกี่ยวกับปัญหา (Problem)
- โปรไฟล์ของผู้สั่งงาน
- บทบาทของเราในโปรเจคและความรับผิดชอบ
- ขอบเขตและข้อจำกัด
- กระบวนการทำงาน และเหตุผลว่าทำไมคุณถึงใช้วิธีการนั้น ๆ ในการทำงาน
- ผลลัพธ์และบทเรียนที่ได้รับจากการทำงาน
04 วิธีกำหนดค่าตอบแทนในฐานะฟรีแลนซ์นักออกแบบ UX UI ของคุณ
ค่าตอบแทนของฟรีแลนซ์นั้นจัดเป็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเป็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเงิน และมูลค่าหรือความสามารถในการทำงานของเรา ซึ่งสิ่งสำคัญคือคุณจะต้องเริ่มฝึกทักษะในการเล่าเรื่อง เพื่อให้สามารถพูดให้ลูกค้าเข้าใจได้ว่างานของคุณจะสามารถใช้งานได้จริง และเหมาะสมกับเงินที่เขาจะต้องจ่าย โดยคุณจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานการณ์จริง และไม่ใช้สัญชาตญาณเป็นตัวกำหนดค่าตตอบแทนของงาน
วิธีกำหนดค่าตอบแทนแบบรายชั่วโมง
- กำหนดเงินเดือนที่คุณต้องการตามค่าใช้จ่าย
- คำนวณจำนวนชั่วโมงการทำงานต่อปี และลบออกอย่างน้อย 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อใช้สำหรับการทำสิ่งอื่น ๆ ที่มีความจำเป็น และควรลบออกอีกประมาณ 2 สัปดาห์ สำหรับใช้เป็นวันหยุดและวันลาในแต่ละปีด้วยเช่นกัน
- หารเงินเดือนประจำปีเพื่อกำหนดเป็นค่าตอบแทนขั้นต่ำต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเติบโตมากขึ้นในสายงาน คุณจะสามารถเรียกเก็บเงินได้มากขึ้น จากทักษะและความสามารถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนักออกแบบ UX UI ที่เป็นฟรีแลนซ์มักจะเริ่มต้นด้วยอัตราที่มีความสมเหตุสมผล
ที่สำคัญคือควรเพิ่มค่าตัวในจำนวน 25% ถึง 50% ในทุก ๆ 5 ปีของการทำงาน
05 วิธีจัดการเวลาให้มีคุณภาพในฐานะฟรีแลนซ์นักออกแบบ UX UI
ในวิธีเตรียมพร้อมหางานฟรีแลนซ์ UX UI ให้ประสบความสำเร็จ คุณควรคำนึงเผื่อถึงเรื่องของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน ที่อาจทำให้ระยะเวลาการทำงานของคุณเพิ่มขึ้นมาได้ และบอกเล่าถึงความจำเป็นในส่วนต่าง ๆ กับลูกค้า โดยส่วนนี้นอกจากจะทำให้ลูกค้ามองเห็นถึงกระบวนการคิดของคุณได้แล้ว ยังทำให้คุณสามารถวางระยะเวลาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และยังอาจแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาของคุณได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับนักออกแบบ UX UI อิสระส่วนใหญ่ เวลาที่ใช้ในการทำงานคือเงิน ดังนั้น คุณจะต้องมีระเบียบวินัยในการจัดตารางการทำงาน และต่อไปนี้จะเป็น 5 วิธีที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับเวลาได้อย่างดีที่สุด
- ติดตามเวลาการทำงานของคุณ อาจจะใช้โปรแกรมออนไลน์ก็ได้นะครับ เช่น Toggl
- ไม่กำหนดเวลาเกิน 120 ชั่วโมงในการทำงานต่อเดือน
- จัดตารางเวลาการทำงานอย่างเป็นระบบ
- สร้างระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
- เรียนรู้ที่จะปฏิเสธสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นระหว่างเวลาทำงาน
06 วิธีเสนอขายในฐานะนักออกแบบ UX UI
มี 3 ขั้นตอนในการเสนอการออกแบบ UX UI ที่เหล่าฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จ มักจะเลือกใช้กันในการพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งการแสดงหนทางแก้ไขในการทำงาน และการบอกถึงการจัดการอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นกระบวนการคิด และเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวคุณในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น และสำหรับขั้นตอนต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไปนั้น จะประกอบไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- ค้นหาวัตถุประสงค์ของโปรเจค: ทำการค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับโครงการ ก่อนนำเสนอกับลูกค้าโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ หรือข้อมูลทางเทคนิคต่าง ๆ และตอบคำถามให้ได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังและเป้าหมายของลูกค้า หลังจากที่ได้ทำการพบเจอและสอบถามกันในครั้งแรก
- สร้างการนำเสนอที่เข้าใจได้ง่าย: หลังจากการ Research แล้ว คุณจะต้องพิจารณาว่าคุณสามารถช่วยพวกเขาในการทำงานได้อย่างไร จากนั้นจึงรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอโครงการ เพื่อจัดลำดับการทำงานและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรายละเอียดที่คุณควรใส่ไว้ในงานนำเสนอนั้น จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละงาน แต่จะต้องเป็นสิ่งที่มีผลและมีความสำคัญต่อการทำงานโดยตรง
- เสนอเครือข่ายความสัมพันธ์ในงานที่ดีกับลูกค้า: การเสนอขายงานมีแนวโน้มที่จะเป็นไปในทิศทางที่ดีและได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้นหากคุณได้นำเสนอเกี่ยวกับผู้คนที่คุณเคยทำงานด้วยในอดีตก่อนเริ่มโครงการ นอกจากนี้คุณยังต้องขอช่องทางการติดต่อต่าง ๆ เพื่อให้สามารถได้รับงานจากลูกค้ารายนั้น ๆ ในอนาคตด้วยเช่นกัน
07 เตรียมพร้อมการรับมือกับลูกค้าที่อาจมีปัญหาในอนาคต
เรื่องนี้ถือเป็นการจัดการของคนที่ทำฟรีแลนซ์เลยนะครับ เพราะเป็นไปได้น้อยมากที่คุณจะเจอลูกค้าน่ารักทุกโปรเจค อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องดีในมุมของการสร้างประสบการณ์ของอาชีพนี้นะครับ เพราะคนที่เราเจอยิ่งแตกต่างกันมากเท่าไร เราก็จะได้พบเจอกับผู้คนหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทำให้เราสามารถคัดเลือกลูกค้าที่เราจะรับงานในอนาคตได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นหากเราได้พบเจอกับลูกค้าในลักษณะนี้ก็ควรมองหาวิธีการหลีกเลี่ยงอย่างสุภาพ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จนส่งผลต่อตารางงานในภาพรวมของคุณได้
08 รู้เวลาที่ควรหยุดรับงานฟรีและงานการกุศล
เมื่อคุณเพิ่งเริ่มต้นทำงานฟรีแลนซ์ งานฟรีหรืองานการกุศลอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสร้างประสบการณ์และพอร์ตฟอลิโอดังที่เราได้กล่าวไป แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อทำงานไปอย่างต่อเนื่อง ก็ถึงจุดที่คุณควรได้รับค่าตอบแทนในทุกงานที่ทำ ซึ่งสิ่งนี้ไม่อาจกำหนดเป็นระยะเวลาได้อย่างชัดเจน แต่คุณจะต้องรับรู้เกี่ยวกับตัวเองว่าสมควรจะรับค่าตอบแทนได้เมื่อทักษะถึงระดับใด เพราะหากคุณยังคงรับงานฟรีต่อไป ก็มีโอกาสที่คุณจะได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่ต่ำเกินกว่าที่ควรจะเป็นได้ด้วยนั่นเอง
หากท่านกำลังมองหาอาชีพใหม่ ต้องการย้ายสายงาน อัพเงินเดือน!!!!!
ทาง Designil & DataTH ได้ร่วมมือกันเปิดคอร์สออนไลน์สอนทางทางด้าน Technology
มีเนื้อหาทั้งเรื่องของ Data และ Design มาดูกันเลยครับว่าเราจัดสอนคอร์สอะไรบ้าง
DataTH – คอร์สออนไลน์ด้าน Data & Data engineer ที่จะสอนตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการเข้าทำงานจริง
Designil – คอร์สออนไลน์ด้าน Design, UX UI, Design system เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านการออกแบบ
สามารถดูหลักสูตรของเราได้ผ่านทางลิงค์ด้านล่าง หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ แล้วเจอกันคร้าบ
บทสรุป
8 ข้อของวิธีเตรียมพร้อมหางานฟรีแลนซ์ UX UI ที่เราได้กล่าวไป น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับหลาย ๆ คน ที่กำลังมองหาช่องทางในการเข้าสู่สายอาชีพนี้ได้อยู่ไม่น้อย เพราะเป็นวิธีการที่เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งคุณสามารถทำตามได้อย่างไม่ลำบากมากนักหากได้อ่านอย่างชัดเจนและถี่ถ้วน และหากคุณได้ลองทำตามไปจนถึงช่วงเวลาที่คุณมีความพร้อมมากเพียงพอ ทางเราก็เชื่อว่าตัวคุณจะต้องเป็นนักออกแบบ UX UI ที่สามารถสร้างรายได้อย่างคุ้มค่ากับระยะเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ชวนไปงาน Job fair ออนไลน์ Tech level up หางานด้าน Data และ UX UI
- UI designer คืออะไร? ต่างจาก UX designer อย่างไร มาดูกัน
- UX Researcher คืออะไร? สรุปคำแนะนำพร้อมเนื้อหาการศึกษาต่อ
- Information architecture (IA) คืออะไร? อยากเป็น UX Designer ต้องรู้
- ทำไมสมัครงาน UX UI ยากจัง? รวม 10 ขั้นตอนสมัครงานให้ได้งาน
Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา