ก่อนการเลือกใช้บริการของ Web Hosting สำหรับเว็บไซต์ของคุณ จะมีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่คุณควรตอบให้ได้เสียก่อน ว่าผู้ให้บริการรายนั้น ๆ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้หรือไม่ ซึ่งสำหรับหลายคนที่เพิ่มเริ่มต้นการทำเว็บไซต์เป็นของตนเอง หรือธุรกิจที่เริ่มมีความจำเป็นจะต้องใช้งานเว็บไซต์ในเชิงการตลาด ก็มีรายละเอียดเล็กน้อยมากมาย ที่คุณอาจมองข้ามไปสำหรับการให้บริการในครั้งแรก
เพราะฉะนั้นเราจึงอยากจะแนะนำสิ่งที่คุณควรคำนึงถึง โดยจะเป็นคำถามก่อนซื้อ Web Hosting ที่คุณจะต้องพิจารณาก่อนจ่ายเงิน และเมื่อคุณได้ทำการศึกษาไปอย่างรอบคอบ ก็จะสามารถเลือกใช้บริการเว็บโฮสติ้งเจ้าที่เหมาะสำหรับคุณที่สุดได้อย่างแน่นอน
คำถามที่เราได้รวบรวมมาให้กับคุณนั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ข้อ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจเกี่ยวกับ Web Hosting และความสำคัญของการเลือกใช้ผู้ให้บริการที่มีคุณภาพมากที่สุดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากคุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มที่เราได้กล่าวไป หากได้ลองอ่านบทความนี้จนจบ รับรองว่าไม่เสียเวลาของคุณแน่นอน
แนะนำ 7 วิธีเลือกซื้อ Web Hosting
ก่อนการเลือกใช้บริการ Web Hosting ทุกเจ้า คุณจะต้องคำนึงและตอบคำถามพื้นฐาน ที่เรากำลังจะกล่าวถึงทั้งหมด 7 ข้อดังต่อไปนี้
01 ประเภทของแผนเว็บโฮสติ้งคืออะไร
ปัจจุบันมีแผนเว็บโฮสติ้งมากมาย ให้คุณสามารถเลือกใช้บริการได้ในตลาด โดยที่แต่ะละแผนนั้น จะมีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งนี้เป็นส่วนแรกที่คุณจะต้องพิจารณาและทำความเข้าใจ เพื่อให้สามารถกำหนดขอบเขตของแผนที่เหมาะสมกับคุณได้มากยิ่งขึ้น โดยการแบ่งแยกรูปแบบของแผนให้บริการนั้น เราจะแนะนำให้คุณได้รู้จัก ดังนี้
– Share Hosting
โฮสติ้งประเภทนี้จะเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาที่ย่อมเยาและค่อนข้างเหมาะสำหรับการใช้งานของเว็บบล็อกส่วนบุคคล โดยเว็บไซต์ของคุณจะใช้งานเซิร์ฟเวอร์และทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกันกับเว็บอื่น ๆ เช่น CPU และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เป็นต้น นอกจากนี้ยังเหมาะสมสำหรับการใช้งานของผู้ที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์ในช่วงแรกอีกด้วย
– Virtual Private Servers (VPS) Hosting
การใช้งานโฮสติ้งแบบ VPS คุณยังจำเป็นต้องแชร์เซิร์ฟเวอร์ร่วมกันกับเว็บอื่น ๆ แต่จะมีความแตกต่างจาก Share Hosting ในเรื่องของการแยกใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ที่จะทำให้คุณสามารถจัดสรรสิ่งต่าง ๆ ได้ดีมากกว่า โดยสาเหตุที่ทำให้สามารถแบ่งแยกพื้นที่ในการจัดการข้อมูลได้ จะมาจากการที่ VPS จะมีการสร้างเซิร์ฟเวอร์เสมือนขึ้นมาภายใน ทำให้การแบ่งแยกส่วนจัดเก็บเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นในด้านของการใช้งาน จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มองหาความปลอดภัยของเว็บไซต์ ในราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไป
– Dedicated Hosting
โฮสติ้งประเภทนี้จะเป็นรูปแบบที่มีอัตราค่าบริการสูงสุด เพราะคุณจะสามารถควบคุมทั้งเซิร์ฟเวอร์ได้ จากการที่มีคุณเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว ทำให้จุดเด่นสำคัญเป็นเรื่องของความปลอดภัย และการที่คุณสามารถจัดการกับทรัพยากรของเว็บไซต์จำนวนมากได้อย่างยืดหยุ่น ส่งผลให้ในภาพรวมจึงเรียกได้ว่าเป็นโฮสติ้งในระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียว
– Cloud Hosting
สำหรับ Cloud Hosting จะทำงานภายใต้ระบบ Cloud หรือข้อมูลออนไลน์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อกันของเซิรฟ์เวอร์จำนวนมาก โดยเมื่อเว็บไซต์ของคุณถูกเข้าถึงมากยิ่งขึ้น เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ก็จะมีการทำงานที่สนับสนุนเว็บไซต์ของเรา เพื่อปรับเปลี่ยนการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมกับโครงสร้างมากที่สุด ทำให้การปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของระบบ สามารถทำได้ง่าย และราคาค่าบริการก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานอีกด้วย
02 คุณมีความต้องการหรืองบประมาณของเว็บไซต์อยู่ที่เท่าไหร่
ก่อนที่จะเริ่มต้นพิจารณาเกี่ยวกับแผนให้บริการ หรือรายละเอียดที่ซับซ้อนอีกมากมาย คุณจะต้องชัดเจนเสียก่อนว่ามีงบประมาณสำหรับการใช้ในส่วนนี้เท่าใด รวมไปถึงการพิจาณาในขั้นตอนนี้ คุณยังจะต้องกำหนดถึงความต้องการ ที่คุณจะใช้งานจากตัวโฮสติ้งทั้งในปัจจุบัน และความเป็นไปได้ในอนาคต เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณในการเลือกซื้อให้เหมาะสมได้มากที่สุดด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะมีความสำคัญอย่างมาก หากคุณกำลังมองหาโฮสติ้งสำหรับการใช้งานในธุรกิจ ที่จะต้องมีการวางแผนการตลาดอย่างชัดเจน
แต่หากคุณเป็นเพียงบล็อกเกอร์ที่ไม่ได้มีงบประมาณมากนัก งบของการเช่าโฮสติ้งอาจจำกัดให้ลดลงได้ ด้วยการแชร์ส่วนต่าง ๆ ร่วมกันกับเว็บไซต์อื่น ๆ ตามรูปแบบของโฮสติ้งที่เราสามารถเลือกใช้งานได้ในปัจจุบัน ในทางตรงกันข้ามสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ การใช้งานโฮสติ้งที่มีความเฉพาะ ก็เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำให้ต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อให้ได้ใช้งานตามความต้องการด้วยเช่นกัน
Cloudways
สำหรับผู้ใช้งาน WordPress คนไทย
รับส่วนลด 40% – 3 เดือนแรก สำหรับผู้ใช้งานใหม่ กรอกคูปอง WPBKK
03 ค่าธรรมเนียมในการต่ออายุของแผนบริการคือเท่าไหร่
เมื่อทำการกำหนดเกี่ยวกับงบประมาณ และรูปแบบของแผนบริการที่ตอบโจทย์ได้แล้ว คำถามก่อนซื้อ Web Hosting ที่คุณจะต้องตอบให้ได้ในส่วนต่อไป จะเป็นเรื่องของค่าธรรมเนียมในการต่ออายุการใช้งาน เนื่องจากโฮสติ้งของเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่จะต้องใช้งานต่อเนื่องในระยะยาว
ซึ่งผู้ให้บริการที่เสนอเงื่อนไขหรือส่วนลดที่น่าสนใจให้คุณได้มากกว่า ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะจะทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ คุณยังตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยว่า เมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ราคาจะไม่ถูกปรับเพิ่มขึ้นจนทำให้คุณใช้งานตัวโฮสติ้งได้อย่างไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรจะเป็น
04 คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของผู้ให้บริการมีอะไรบ้าง
สิ่งนี้จะเป็นคำถามที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในกรณีที่เราจะต้องทำงานจากที่บ้านอย่างช่วงเวลานี้ เนื่องจากเว็บไซต์ในระดับองค์กรหรือบริษัทนั้น เรื่องของความปลอดภัยเกี่ยวกับข้อมูล จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด ซึ่งทำให้คุณจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ว่าทางผู้ให้บริการมีมาตรฐานหรือส่วนใดบ้าง ที่จะช่วยสนับสนุนด้านความปลอดภัยให้ได้มากที่สุด เพราะความผิดพลาดด้านข้อมูลสำคัญนั้น อาจไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถกลับไปแก้ไขได้ง่ายมากนัก
ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดขึ้น ส่วนเรื่องที่คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจนั้น ในเบื้องต้น คือ ผู้ให้บริการของคุณมีการเข้ารหัสที่ 256 บิตเป็นอย่างต่ำหรือไม่ และหากมีการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตบนเว็บไซต์ ก็ควรตรวจสอบด้วยว่ามีการรับรอง Transport Layer Security (TLS) v1.1 หรือตัวที่ดีกว่าหรือเปล่า
รวมไปถึงยังควรตรวจสอบถึงความถี่ในการดูแลมาตรฐานความปลอดภัย และการตรวจสอบเกี่ยวกับการหามัลแวร์และไวรัส ไปจนถึงการอัพเดตซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย ว่าบ่อยครั้งมากเท่าไหร่ด้วยในขณะเดียวกัน
Hostinger
Free SSL hosting ชื่อดัง มาพร้อมกับส่วนลดมากมาย ได้รับการันตีจาก WPBeginner ขึ้นชื่อเรื่องความสเถียร WordPress hosting เริ่มต้นที่ $1.99 หรือ 68 บาท/เดือน
05 มีฝ่าย Support คอยตอบคำถามในกรณีที่เกิดปัญหาหรือไม่
ในสถานการณ์จริงของการใช้งานเว็บโฮสติ้ง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ เราไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่าในสถานการณ์ต่าง ๆ จะมีโอกาสเกิดความผิดปกติในลักษณะใดขึ้นได้บ้าง เรียกว่าเว็บล่มตอนไหนเราก็ไม่สามารถทราบได้นะครับ เพราะเราฝากข้อมูลไว้กับคนอื่น
ดังนั้นเพื่อให้สามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการที่มีฝ่ายสนับสนุน และะคอยให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการใช้งานมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของการแชตสด, อีเมล หรือแม้แต่โทรศัพท์ก็ตาม
โดยนอกจากการมีรูปแบบการให้บริการเหล่านี้ คุณก็ยังจะต้องตรวจสอบอีกว่า ช่วงเวลาของการให้บริการนั้นครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่ เพราะมันจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากกว่า หากคุณสามารถติดต่อกับผู้ให้บริการได้ทันทีในทุกเวลาอย่างรวดเร็ว และนอกจากเรื่องที่เราได้กล่าวไปแล้ว การอ่านรีวิวในเบื้องต้นเกี่ยวกับการให้บริการของเจ้านั้น ๆ ก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณสมควรทำด้วยเช่นกัน
ดังนั้นการมี Hosting ในบริษัทที่ให้บริการโดยคนไทยก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมเลยครับ เพราะจะมีคนดูแลที่พูดภาษาไทยกับเราได้ตลอดนั่นเองครับ
Rukcom
Hosting ไทย คุณภาพเยี่ยมโดดเด่นเรื่องการ Support
มีบริการ Support ตลอด 24 ชม. ติดตั้ง WordPress ง่ายภายใน 1 คลิ๊ก
06 มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่
ส่วนสนับสนุนหรือคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นในลักษณะของข้อเสนอพิเศษ ฟีเจอร์ลับ ของแถม หรือการเพิ่มคุณภาพให้กับเว็บไซต์ของคุณได้มากที่สุดก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
แต่คุณจะต้องตั้งคำถามก่อนซื้อ Web Hosting ด้วยเช่นกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการมีใบรับรอง SSL, การจดชื่อโดเมน, VPN หรือระบบแอนตี้มัลแวร์และอื่น ๆ เนื่องจากในบางครั้งเราอาจจำเป็นจะต้องซื้อเพิ่ม หรือเลือกใช้บริการจากเจ้าอื่น ๆ เพิ่มเติม
ถ้าเราเลือกผู้ให้บริการที่มีความครอบคลุมในทุกด้านมากที่สุดแล้วล่ะก็ จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดเวลา รวมไปถึงในบางกรณีก็อาจลดค่าใช้จ่ายขึ้นมาได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
Hostatom
Hosting และ Domain name ของไทย คุณภาพเยี่ยมโดดเด่นเรื่องความเร็ว
ฟรีปลั๊กอิน Elementor pro สำหรับผู้ใช้งาน WordPress
07 ตารางการสำรองข้อมูลจะเป็นไปในลักษณะไหน
หลายคนที่เลือกใช้บริการ Web Hosting มักจะมองข้ามเรื่องของการสำรองข้อมูล (Backup) ไป เนื่องจากอาจไม่ได้รู้สึกถึงความสำคัญ หรือการมีผลต่อการใช้งานมากเท่าไหร่นั้น แต่สิ่งนี้จัดว่าไม่ใช่เรื่อง ที่ควรมองข้ามไปเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากคุณไม่สามารถรู้ได้ว่า ปัญหาของเว็บไซต์จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหรือสถานการณ์ใดได้บ้าง
ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถกู้คืนเว็บไซต์ ในสถานการณ์เร่งด่วนได้อย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการที่มีการสำรองข้อมูลบ่อยครั้งมากที่สุด จะทำให้คุณสามารถเรียกใช้งานเว็บไซต์เวอร์ชันล่าสุดได้รวดเร็วมากกว่า ส่งผลให้คุณควรเลือกผู้ให้บริการ ที่มีการสำรองข้อมูลอย่างน้อยในทุกวัน รวมไปถึงตัวคุณเองก็ยังต้องอัพเดตฐานข้อมูลด้วยตัวเองให้บ่อยครั้งมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย
Godaddy
ส่วนลด 30% กรอกคูปอง cjcrmn30pr
ส่วนลด 50% สำหรับ Hosting รายปี กรอกคูปอง CJC50HST
โดเมนเนม .com ราคา 33 บาท (ปีแรก) กรอกคูปอง GDD99com1
WordPress Hosting เริ่มต้นที่ 99 บาท/เดือน ถ้าจ่ายรายปี ได้รับฟรี Domain name
บทสรุป
คำถามก่อนซื้อ Web Hosting ที่เราได้กล่าวไปทั้งหมด 7 ข้อนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการใช้งานด้วยกันทั้งสิ้น รวมไปถึงยังเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณ สามารถใช้งานผู้ให้บริการเหล่านั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องจ่ายไปด้วยในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการมองหาโฮสติ้งสำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจ หรือการใช้งานเว็บบล็อกส่วนบุคคลก็ตาม ซึ่งทางเราเองก็เชื่อว่าหากคุณได้ลองอ่าน และพิจารณาตามสิ่งที่เราได้แนะนำไปทีละข้ออย่างช้า ๆ ก็จะต้องได้ใช้งานโฮสติ้งที่ดีที่สุดในปีนี้อย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รวม 10 เว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด ทั้งแบบฟรีและเสียเงินในปี 2023
- รวม 12 เว็บโฮสติ้งฟรียอดเยี่ยมแห่งปี
- แนะนำ 10 Hosting ยอดฮิตในไทยสำหรับเว็บไซต์ WordPress
- โฮสต์เว็บที่ไหนดี: เปรียบเทียบ Shared Hosting vs Dedicated Hosting vs Cloud Hosting
- รีวิว WP Rocket VS W3 Total Cache ปลั๊กอินเพิ่มความเร็วเว็บไซต์
- 12 วิธีปรับเว็บ WordPress ให้รองรับ Core Web Vitals
Designil ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ มีสาระประโยชน์ให้กับผู้อ่าน สิ่งที่ทีมงานแนะนำทั้งหมดมาจากการค้นคว้าและทดลองใช้งานจริงหลายสัปดาห์ หากคุณชอบเนื้อหาแบบนี้และอยากสนับสนุนให้ทีมงานให้มีแรงสร้างคอนเทนต์ดีๆ ในอนาคต สามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนบทความของเราได้นะครับ บางลิงก์ทางทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยโดยจะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้อ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ การทำงานของเรา